นางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ในนามนายกสมาคมไตลื้อแห่งประเทศไทย ร่วมงาน 'งานงามยิ่งแล้ว พัสตราภรณ์ คนยองสืบสาน' ที่จังหวัดเชียงใหม่ ที่จัดขึ้นเพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ศิลปะวัฒนธรรมไตยองซึ่งก็คือกลุ่มชาติพันธุ์ไตลื้อที่มีรกรากอยู่ในเมืองยอง รัฐฉาน เมียนมา, สร้างความรักความสามัคคีกลุ่มชาติพันธุ์ไตยองไตลื้อและร่วมกันอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมให้ยังยืน โดยรายได้จากการขายบัตรเข้างานจะนำเข้าสมาคมเพื่อจัดกิจกรรมส่งเสริมการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมของสมาคมคนยอง

นอกจากนี้เธอยังได้ร่วมเดินแบบโดยสวมใส่เสื้อที่ใส่ตัดเย็บจากผ้าถุงผู้หญิงชาวไตลื้อบ้านหย่วน ตำบลหย่วน อำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา ตกแต่งด้วยการวางผ้าให้ลายน้ำไหลอยู่ตรงชายเสื้อซึ่งปกติลายน้ำไหลจะอยู่ส่วนบนของผ้าถุง ปกติผ้าทอของชาวไตลื้อเชียงคำจะมีลวดลายไม่มากแต่เน้นการให้สีที่สดใส ส่วนผ้าคลุมบ่าสก็อตสีแดงดำทอด้วยผ้าฝ้ายเส้นใหญ่เพื่อให้มีเนื้อหนาใช้เป็นผ้าห่มของเจ้าเมืองไตลื้อสมัยโบราณ ปัจจุบันนำมาประยุกต์ใช้ประโยชน์หลาย รวมทั้งใช้คลุมไหล่ ซึ่งปัจจุบันมีคนท่อจำนวนน้อย จึงถือเป็นของหายาก

ปัจจุบันสมาคมไตลื้อแห่งประเทศไทยที่มีเครือข่ายอยู่ในเจ็ดจังหวัดภาคเหนือและสมาคมคนยองที่มีเครือข่ายมากในเชียงใหม่และลำพูนมีความเจริญก้าวหน้าตลอดมาเนื่องจากรุ่นผู้ใหญ่ทำเป็นต้นแบบของรุ่นลูกหลานที่ปฏิบัติตามในการส่งเสริมรักษาศิลปวัฒนธรรมให้ยังยืนปัจจุบันนี้ได้รับการสนับสนุนทั้งจากกระทรวงวัฒนธรรมและกระทรวงการท่องเที่ยว

อย่างไรก็ตาม การร่วมงานดังกล่าวทำให้นางลดาวัลลิ์ ได้รับฟังปัญหาของกลุ่มชาติพันธุ์ ภาคเหนือ ของประเทศว่ายังขาดงบประมาณมาบริหารจัดการและการจัดกิจกรรมขององค์กรอนุรักษ์ ศิลปวัฒนธรรมไตลื้อไตยอง เพราะระเบียบการของสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินของไม่เอื้อให้องค์กรปกครองท้องถิ่นจัดสรรงบประมาณเพื่อสนับสนุนการจัดกิจกรรมด้านวัฒนธรรมได้อย่างเต็มที่

นอกจากนี้ การให้สัญชาติไทยแก่ชาวไตลื้อที่ยังตกหล่นหลงเหลืออยู่นับพันคนและล่าช้ามากบางคนรอมานานกว่า 20 ปี ทั้งๆ ที่สามารถทำให้ได้เลยเมื่อพิจารณาตามกฏเกณท์ต่างๆ แล้ว เพราะได้มีมติ ครม. ให้สัญชาติชาวไตลื้อ พ.ศ. 2535 สมัยรัฐบาลนายอานันท์ ปันยารชุน เป็นนายกรัฐมนตรี