นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการเกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงการแบ่งงาน 4 กลุ่มภารกิจ ให้กับรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รับผิดชอบ คนละ 2 กลุ่มงาน โดยนายลักษณ์ วจนานวัช รับผิดชอบเรื่องผลผลิต และการตลาด ส่วนนายวิวัฒน์ ศัลยกำธร รับผิดชอบเรื่องขั้นตอนการผลิต และสานต่อแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงของศาสตร์ในหลวงรัชกาลที่ 9
โดยภารกิจแรกที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะเริ่มดำเนินการคือ การลงพื้นที่ตรวจความพร้อม โครงการห้วยโสมงอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดปราจีนบุรี ในช่วงบ่ายของวันนี้ เพื่อเตรียมรับเสด็จในหลวงรัชกาลที่ 10 เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดโครงการดังกล่าวในวันอาทิตย์ที่ 3 ธันวาคมนี้
ส่วนมาตรการเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการในช่วง 3 เดือนแรกที่ตั้งเป้าไว้ คือการผลักดันรายได้ของภาคเกษตรกรให้ดีขึ้น และสูงกว่าต้นทุน พร้อมจะเร่งรัดการตรวจสอบมาตรการที่เคยดำเนินการมาก่อนหน้านี้ว่ามีประสิทธิภาพหรือไม่ หากมาตรการใดสามารถดำเนินการได้ต่อก็จะเร่งรัดให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ส่วนมาตรการใดที่ยังมีปัญหาก็จะปรับปรุงแก้ไขให้กลับมาใช้ได้อีกครั้ง พร้อมยืนยันว่านโยบายของกระทรวงเกษตรที่ส่งเสริมให้ปลูกพืชชนิดใด พืชชนิดนั้นจะต้องออกขายในตลาดได้
ที่สำคัญจะมีการหารือร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ในการแบ่งภาระงานเรื่องการขายและการผลิตพืชผลเกษตรให้ชัดเจนโดยเร็วที่สุด ส่วนเรื่องราคาข้าว ยาง และปาล์ม ที่เป็นพืชผลเกษตรหลัก ทางกระทรวงจะจัดการให้เป็นไปตามกลไกตลาดที่แท้จริงให้มากที่สุด
ส่วนกรณียางในสต๊อกกว่า 1 แสนตัน ทางกระทรวงจะดำเนินการตามมติของคณะรัฐมนตรี ในการนำยางพาราในสต๊อกไปใช้งานกับหน่วยราชการ ซึ่งจะมีหานำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในสัปดาห์หน้า และยืนยันว่าจะไม่มีการนำสต๊อกยางพารามาเทขายในตลาด เพราะหากเทขายจะทำให้ราคายางในตลาดมีความผันผวน
ส่วนเรื่องการแก้ไขปัญหาประมง หรือ IUU นั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรเกษตรและสหกรณ์ระบุ พร้อมรับฟังความคิดเห็นเกษตรกรและชาวประมง เพื่อแก้ไขปัญหาให้สถานการณ์ดีขึ้น
สำหรับเรื่องที่เครือข่ายชาวสวนยางพาราร้องเรียนให้ปลดผู้ว่าการยางแห่งประเทศไทย หรือ กยท. ทางกระทรวงขอเวลาตรวจสอบข้อเท็จจริงให้แน่ชัดเสียก่อน และยืนยันว่าจะไม่มีปัญหาการเมืองเข้ามาแทรกแซงในการพิจารณา