เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ทางการอิหร่านเปิดเผยว่าได้ปล่อยตัวผู้ชุมนุมประท้วงที่ถูกจับกุมแล้วกว่า 440 คน ในกรุงเตหะราน เมืองหลวงของอิหร่าน แต่ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ฝ่ายกระบวนการยุติธรรมของอิหร่านได้กล่าวว่า มีการจับตัวผู้ประท้วงกว่า 1,000 คนทั่วประเทศ ขณะที่สมาชิกสภานิติบัญญัติ นายมาร์มุชด์ ซาดิจิ กล่าวว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมามีผู้ชุมนุมถูกจับอย่างน้อย 3,700 คน ทั้งนี้ ผู้ประท้วงที่ถูกจับนั้นส่วนมามีอายุระหว่าง 18 – 35 ปี และมาจากครอบครัวที่มีรายได้น้อย
ขณะที่สภาการต่อต้านแห่งชาติอิหร่าน (NCRI) ซึ่งเป็นองค์กรเฝ้าระวังทางการเมืองอิหร่านที่มีสำนักงานอยู่ในยุโรป กล่าวว่า เหตุการณ์ชุมนุมในครั้งนี้มีการจับกุมประชาชนแล้วกว่า 8,000 คน และมีประชาชนเสียชีวิตอย่างน้อย 50 คนและมีการทรมานผู้ที่ถูกจับกุมจนเสียชีวิต จำนวน 5 คน
โฆษกของรัฐสภาอิหร่านได้อ้างถึงข่าวจากสถานีข่าวแห่งชาติเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาว่า มีผู้ประท้วงที่ถูกจับกุมในกรุงเตหะรานเสียชีวิตในเรือนจำ 1 คน และในจังหวัดอื่นๆ อีก 2 คน นักเคลื่อนไหวสิทธิมนุษยชนจึงเรียกร้องให้มีการสอบสวนเรื่องดังกล่าว
นอกจากการจับกุมกลุ่มผู้ประท้วงแล้ว ยังมีชาวต่างชาติถูกจับกุมด้วย โดยทางโฆษกของศาลยุติธรรมอิหร่านได้กล่าวเมื่อวันอาทิตย์ว่า เจ้าหน้าที่อิหร่านได้จับกุมชาวต่างชาติที่กำลังถ่ายรูปเหตุการณ์ความไม่สงบในอิหร่าน แต่ทางโฆษกไม่ได้ระบุให้ทราบว่าเป็นชาวต่างประเทศสัญชาติใด
เหตุการณ์ชุมนุมประท้วงครั้งนี้เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่วันที่ 28 ธันวาคม 2560 ด้วยความไม่พอใจของประชาชนในเรื่องค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้นสูง สวนทางกับคุณภาพชีวิตที่แย่ลง รวมไปถึงอัตราการว่างงานที่สูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ แม้ที่ผ่านมานายฮัสซัน โรฮานี ประธานาธิบดีอิหร่าน จะเรียกร้องให้ทุกฝ่ายอยู่ในความสงบ แต่การประท้วงต่อต้านรัฐบาลอิหร่านก็ยังคงดำเนินต่อไป และมีการปะทะกันระหว่างผู้ประท้วงและตำรวจอิหร่านอยู่เรื่อยๆ
ขณะเดียวกัน สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่าการประท้วงเรื่องปัญหาปากท้องและค่าครองชีพกระจายตัวไปยัง 80 เมืองและเขตปกครองทั่วอิหร่าน ทำให้มีผู้เสียชีวิตจากการใช้กำลังสลายการชุมนุมของเจ้าหน้าที่ และการใช้ความรุนแรงของกลุ่มผู้ประท้วงเอง รวมทั้งหมด 25 คน โดยรอยเตอร์รายงานอ้างอิงคำแถลงของโฆษกรัฐสภาเพิ่มเติม ซึ่งระบุว่าผู้เสียชีวิตขณะถูกคุมขังในเรือนจำของรัฐ 2 คนเป็นการฆ่าตัวตาย
รัฐบาลสหรัฐฯ ยังได้เพิ่มมาตรการตอบโต้อิหร่าน โดยมีการขึ้นบัญชีดำบุคคลสำคัญ 14 คนที่ใกล้ชิดกับอยาตุลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดทางจิตวิญญาณของชาวอิหร่าน โดยสหรัฐฯ ระบุว่ากลุ่มคนดังกล่าวมีส่วนเกี่ยวข้องกับการละเมิดสิทธิมนุษยชน รวมถึงการทรมานผู้ประท้วงที่ถูกจับกุม ซึ่งผู้มีตำแหน่งสูงสุดที่ถูกขึ้นบัญชีดำ คือ อยาตุลเลาะห์ ซาเด็ก ลาริจานี อัยการสูงสุดของอิหร่าน ซึ่งถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้สนับสนุนโครงการอาวุธนิวเคลียร์ด้วย
อ่านเพิ่มเติม: