ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุม เข้าสู่วาระการพิจารณา ร่างข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ... ต่อจากการประชุมเมื่อวันที่ 14 ส.ค. ข้อ 90 กรรมาธิการ (กมธ.) ที่กำหนดให้มีกมธ. 35 คณะ โดยที่ประชุมมีมติ ไม่เห็นชอบกับการแปรญัตติแก้ไขเพิ่มเติมข้อ 90 วรรคหนึ่ง ให้มีกมธ.ทั้งหมด 36 คณะ โดยให้เพิ่ม กมธ.ผู้มีความหลากหลายทางเพศของ ของ น.ส.ณธีภัสร์ กุลเศรษฐสิทธิ์ , นายธัญญ์วาริน สุชะพิสิษฐ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ ด้วยคะแนน 365 ต่อ 101 และงดออกเสียง 13 ส่งผลให้ กมธ.จะมีจำนวน 35 คณะ ตามเดิม
นายธัญญ์วาริน กล่าวว่า วันนี้ผลที่ออกมาดีใจมากที่จุดเริ่มต้นของเราสัมฤทธิ์ผล เสียงที่โหวตให้มีการตั้งคณะกรรมาธิการความหลากหลายทางเพศ มีถึง 101 เสียง แสดงว่ามีเสียงจากพรรคอื่นที่เห็นด้วย อีก 20 กว่าเสียง ซึ่งขณะนี้ตนยังไม่รู้ว่ามีพรรคใดโหวตให้บ้าง
อย่างไรก็ดีนายธัญญ์วาริน กล่าวว่า นี่คือการสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ทางการเมือง ที่มีความพยายามจัดตั้งกรรมาธิการความหลากหลายทางเพศ แยกมาอีกคณะ
นายธัญญ์วาริน กล่าวว่า อยากบอกผู้มีความหลากหลายทางเพศว่า เราพยายามเต็มที่แล้วที่สร้างที่ยืน ให้ทุกคนเห็นคุณค่าความเป็นคนของเรา ตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้วที่ได้มีการอภิปราย และเมื่อวานเราได้เข้าไปคุยกับ ส.ส. พรรคอื่นๆ ที่เคยหาเสียงในเรื่องนี้เอาไว้ จริงๆ หวังว่าจะได้เสียงมากกว่านี้ แต่แค่นี้ก็ดีใจแล้ว
“พรรคอนาคตใหม่ไม่เคยทอดทิ้งเราอยู่แล้ว คนอีก 7 ล้านคนยังถูกเลือกปฏิบัตินี่คือปัญหาปากท้องประชาชน คนอีก 7 ล้านคนไม่ใช่คนเหรอคะ ไม่มีงานที่ดีๆ ทำ ไม่มีสิทธิเลือกอนาคตที่ตัวเองต้องการ ไม่มีสิทธิมีครอบครัวอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ตรงนี้คือปัญหาปากท้องที่สำคัญ”
นายธัญญ์วาริน กล่าวต่อว่า หากกลุ่มคนที่มีความหลากหลายทางเพศได้รับการปลดปล่อยศักยภาพของตังเอง มั่นใจว่า เศรษฐกิจ สังคม และการเมืองไทยจะดีขึ้น หากกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศมีสิทธิ เสรีภาพ ตามกฎหมายเหมือนทุกคน
ด้าน นายธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ กล่าวถึงภารกิจต่อไปของกลุ่มว่า ถึงวันนี้เราจัดตั้งกรรมาธิการไม่ได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าเราจะหยุดก้าวเดิน แต่จะทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศต่อไป คือ 1. ตั้งอนุกรรมการทำงานเกี่ยวกับความหลากหลายทางเพศ 2.ยกร่างกฎหมายการสมรสไม่จำกัดเพียงแค่ชายหญิง