ไชยา พรหมา ส.ส.หนองบัวลำภู รองหัวหน้าพรรค และคณะทำงานทีมเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย ชี้การลาออกของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี คือ ทางออกในการแก้ไขปัญหาประเทศที่ดีที่สุด
ทั้งนี้ ไชยา กล่าวว่า จากการประชุมของรัฐสภาเพื่อร่วมกันหาทางออกให้กับประเทศ ตาม ม.165 เมื่อ 26-27 ต.ค.2563 ที่ผ่านมานั้น ตนได้อภิปรายแสดงความคิดเห็นไว้ว่า จากสถานการณ์การออกมาชุมนุมของเยาวชนคนหนุ่มสาว นักเรียน นิสิต นักศึกษา ที่ใช้ยุทธวิธีการชุมนุมแบบดาวกระจายไร้ผู้นำทั่วประเทศในขณะนี้ เพื่อเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออกนั้น เป็นการแสดงออกในพลังบริสุทธิ์ที่มีความปรารถนาต่อบ้านเมืองในฐานะอนาคตของชาติ อยากให้รัฐบาลรับฟังอย่างไม่มีอคติด้วยเหตุด้วยผล เพื่อร่วมกันหาทางออกให้กับประเทศ
โดยมูลเหตุของปัญหามาจากรัฐธรรมนูญที่ไม่เป็นประชาธิปไตย มีการสืบทอดอำนาจของคณะรัฐประหาร ผ่านกลไกระบบกฎหมายที่ถูกออกแบบไว้ในรัฐธรรมนูญ เช่น ระบบเลือกตั้งที่พิสดาร การให้อำนาจ ส.ว.250 คนร่วมเลือกนายกรัฐมนตรี ซึ่งตรงกับข้อเรียกร้องของผู้ชุมนุมเรื่องให้ปิดสวิตซ์ ส.ว. นอกจากนี้คณะกรรมการยุทธศาสตร์ 20 ปี ยังมีอำนาจกำหนดนโยบายสาธารณะที่ครอบงำรัฐบาลในอนาคตและไม่ทันสมัยกับบริบทของสังคมที่มีความเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
อีกทั้งการบริหารราชการแผ่นดินที่ผิดพลาดของรัฐบาลนำมาซึ่งวิกฤติการณ์ทางการเมือง เศรษฐกิจและสังคมอย่างมาก โดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจในขณะนี้ ประชาชนทำมาหากินด้วยความยากลำบากฝืดเคือง ผู้ประกอบธุรกิจ SMEs ต้องปิดกิจการ ธุรกิจท่องเที่ยว โรงแรม ต้องปิดกิจการและเลิกจ้างคนงาน นโยบายและมาตรการการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลที่ออกมากลับไม่ประสบความสำเร็จ กลไกของระบบเศรษฐกิจไม่สนองตอบนโยบายของรัฐบาล หรือแก้ไขปัญหาไม่ตรงจุด ภาคธุรกิจที่เป็นแหล่งการจ้างงานยังไม่ได้รับความช่วยเหลือใดๆ หากยังเป็นแบบนี้อยู่จะกระทบถึงระบบเศรษฐกิจทั้งระบบ
นอกจากนี้ ภาคการเกษตรซึ่งขณะนี้เข้าสู่ฤดูเก็บเกี่ยวผลผลิตทางการเกษตรกำลังจะออกสู่ตลาด รัฐบาลยังไม่มีมาตรการใดๆ ออกมารองรับเพื่อช่วยเหลือภาคเกษตรกรรมอย่างเป็นรูปธรรมเลย หากปล่อยไว้แบบนี้ เกษตรกรต้องประสบกับการสิ้นเนื้อประดาตัวอย่างแน่นอน
ไชยา กล่าวต่ออีกว่า ปัญหาของประเทศในขณะนี้ เกิดจากการขาดความเชื่อมั่นในตัวผู้นำประเทศ คือตัวนายกรัฐมนตรี เพราะมาจากกลไกที่มาจากการรัฐประหารและไม่มีความเข้าใจในระบบเศรษฐกิจกลับมองปัญหาในมิติเดียวคือ มิติความมั่นคง การจัดสรรงบประมาณก็มุ่งเน้นการซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์โดยไม่คำนึงถึงภาวะทางเศรษฐกิจของประเทศจะเป็นอย่างไร ควรมุ่งเน้นการพัฒนาประเทศด้วยการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางด้านเศรษฐกิจมากกว่าการแข่งขันทางด้านสะสมอาวุธ ที่ผ่านมา ฝ่ายค้านเคยชี้แนะการแก้ไขปัญหาในแนวทางที่ถูกต้องมาหลายครั้งแต่รัฐบาลไม่ฟัง จนทำให้สถานการณ์เลวร้ายทั้งมิติการเมือง มิติทางด้านเศรษฐกิจ จนเกินจะเยียวยา
ครั้งนี้ เมื่อรัฐบาลต้องการรับฟังปัญหาจากสมาชิกรัฐสภา ตนก็อยากชี้แนะว่า ควรเข้าปัญหาก่อนว่าปัญหาของประเทศคืออะไร ปัญหาคือคนไม่มีความเชื่อมั่นในตัวท่านว่าจะบริหารประเทศต่อไปได้ ดังนั้น นักเรียน นิสิต นักศึกษา เยาวชน คนรุ่นใหม่ เขารู้ว่าหากปล่อยให้ท่านบริหารประเทศต่อไปแบบนี้อีก เขาไม่เห็นอนาคตอันสดใสในวันข้างหน้า เขาจึงออกมาเรียกร้องให้ท่านลาออก และยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ให้เป็นประชาธิปไตย แต่ท่านกลับมาคุกคามเขา อีกทั้งปล่อยให้มีการม็อบชนม็อบแบบนี้ จะนำมาซึ่งความเสียหายอันใหญ่หลวงจนยากจะแก้ไขได้ ตนอยากขอเตือนพลเอกประยุทธ จันทร์โอชา ว่า รัฐบาลต้องแสดงจุดยืนและแสดงความจริงใจที่จะแก้ไขปัญหาเพื่อสร้างสังคมของประเทศให้อยู่ร่วมกันได้บนความคิดเห็นทางการเมืองที่แตกต่างกันอย่างสันติวิธี
ดังนั้น หนทางเดียวในขณะนี้คือ ต้องยอมรับถึงความล้มเหลวในการบริหารประเทศ การแก้ไขปัญหาต้องแก้ให้ถูกจุด ตัวนายกรัฐมนตรีนั่นแหละคือปัญหาของประเทศ จึงขอเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออก เพราะการลาออกคือการแสดงความรับผิดชอบทางการเมืองในวิถีทางประชาธิปไตยและเป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อประชาชนด้วยเช่นกัน เพราะยิ่งอยู่นานปัญหาของประเทศจะยิ่งเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนยากจะแก้ไข