“ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ศัตรูได้โจมตีที่ชุมชนกว่า 118 แห่งใน 10 ภูมิภาค” คลีเมนโกกล่าวเมื่อวันพุธที่ผ่านมา (1 พ.ย.) “นี่เป็นจำนวนเมืองและหมู่บ้านที่ถูกโจมตีมากที่สุดนับตั้งแต่ต้นปี” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยยูเครนกล่าวย้ำ
การโจมตีครั้งใหญ่ของรัสเซีย ส่งผลให้เมืองและหมู่บ้านบางแห่งของยูเครน กลายสภาพไปเป็นซากปรักหักพัง โดยเจ้าหน้าที่ในท้องถิ่นของยูเครนกล่าวว่า เหตุโจมตีในช่วงเวลาข้ามคืนที่เกิดขึ้นในเมืองคาร์คีฟ ใกล้ชายแดนยูเครนที่ติดกับรัสเซีย ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย ในขณะที่ยังมีผู้เสียชีวิตอีก 1 ราย ในพื้นที่ของเมืองเคอร์ซอนทางตะวันออกเฉียงใต้ของยูเครนด้วย
ยิ่งไปกว่านั้น รัสเซียยังใช้โดรนโจมตีเมืองนิโกปอล เมืองทางตอนใต้ของยูเครน ซึ่งได้คร่าชีวิตหญิงรายหนึ่งวัย 59 ปี อีกทืั้งยังส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 4 ราย นอกจากนี้ ยูเครนรายงานว่าการโจมตีของรัสเซียใส่โรงกลั่นน้ำมันในเครเมนชุกของยูเครน ได้ส่งผลให้เกิดเพลิงไหม้ ซึ่งต้องใช้เวลาดับนานหลายชั่วโมง อย่างไรก็ดี ไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากเหตุเพลิงไหม้ในครั้งนี้
ยูเครนและชาติพันธมิตรในโลกตะวันตก อาทิ สหรัฐฯ กำลังกังวลว่ารัสเซียอาจบีบคั้นสถานการณ์ใส่ยูเครน ผ่านการกำหนดเป้าหมายการโจมตีใส่โครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงาน เมื่อช่วงฤดูหนาวกำลังเข้าใกล้เข้ามาถึงในยูเครน ซึ่งจะส่งผลให้สถานการณ์การทำสงครามต่อต้านการรรุกรานโดยรัสเซียของยูเครน เป็นไปด้วยความยากลำบากยิ่งขึ้น
ในการให้สัมภาษณ์ที่เผยแพร่โดย The Economist หนังสือพิมพ์ของสหราชอาณาจักร เมื่อช่วงวันพุธที่ผ่านมา วาเลรี ซาลูซนี นายพลระดับสูงของยูเครนกล่าวว่า ความขัดแย้งระหว่างยูเครนกับรัสเซีย กำลังเข้าสู่ภาวะการสึกกร่อน และยูเครนจะต้องการเทคโนโลยีใหม่และกองทัพสำรองที่ใหญ่ขึ้น เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการต่อต้านการรุกรานของรัสเซีย
ในขณะที่ชาติตะวันตก ซึ่งเป็นผู้คอยให้การสนับสนุนยูเครน ต่างหวังว่าการรุกตอบโต้ของยูเครนที่ได้รับการคาดหวังเอาไว้อย่างมาก จะส่งผลให้ยูเครนสามารถยึดคืนดินแดนจำนวนมากกลับมาได้ อย่างไรก็ดี ซาลูซนีกล่าวในการให้สัมภาษณ์ว่า ยูเครนจะไม่มี "ความก้าวหน้าที่ลึกซึ้งและสวยงาม" ในการรุกตอบโต้รัสเซีย
ที่มา: