ไม่พบผลการค้นหา
ศาลอุทธรณ์ยกฟ้อง "แทน เทือกสุบรรณ" คดีรุกที่เขาแพง ระบุโจทก์ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าขณะเกิดเหตุ พื้นที่ดังกล่าวเป็นป่าตาม พ.ร.บ.ป่าไม้หรือไม่

ศาลอุทธรณ์ พิพากษายกฟ้อง นายแทน เทือกสุบรรณ อายุ 37 ปี บุตรชายของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตส.ส.สุราษฏร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ กับพวกซึ่งเป็นนายหน้าขายที่ดินและผู้จัดการห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลอีก 3 คนไม่ผิดตามข้อกล่าวหาที่อัยการโจทก์ ยื่นฟ้องว่าปี 2543-2544 ร่วมกันบุกรุกเข้าไปยึดถือ ครอบครองป่าเขาแพง อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เนื้อที่ 14 ไร่ ด้วยการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต

ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า เนื่องจากอัยการโจทก์บรรยายฟ้องไม่ครอบคลุม ขณะที่พยานหลักฐานยังมีข้อสงสัยตามสมควรว่า ที่ดินที่สร้างอ่างเก็บน้ำและถนนคอนกรีต ขณะเกิดเหตุเป็นที่ดินป่าตามองค์ประกอบกฎหมายประมวลที่ดินตาม มาตรา 2 และ พ.ร.บ.ป่า พ.ศ.2484 มาตรา4 (1) หรือไม่ 

ซึ่งพื้นที่ข้างเคียงฟังได้ว่ามีชาวบ้านปลูกพืชพันธุ์ต่อเนื่องทั้งมะพร้าว ต้นมะม่วงหิมพานต์ จึงยังมีข้อสงสัย ซึ่งต้องยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลยหลังอ่านคำพิพากษา นายแทน กล่าวขอบสื่อมวลชน ก่อนขึ้นรถส่วนตัว ออกไปโดยไม่ให้สัมภาษณ์ ทั้งนี้อัยการโจทก์สามารถยื่นฎีกาได้ภายใน 30 วัน

สำหรับคดีนี้ศาลอาญาชั้นต้นพิพากษาจำคุกคนละ 5 ปี นายพงษ์ชัยและนายสามารถ หรือโกเข็ก จำเลยที่ 1-2 ผิดฐานห้ามมิให้ผู้ใด ก่อสร้าง แผ้วถาง หรือเผาป่า หรือกระทำด้วยประการใด ๆ อันเป็นการทำลายป่า หรือเข้ายึดถือหรือครอบครองป่าเพื่อตนเองหรือผู้อื่น เว้นแต่จะกระทำภายในเขตที่ได้จำแนกไว้ ฯ ซึ่งกระทำนั้นได้ทำเกินเนื้อที่ 25 ไร่ อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ ฯ มาตรา 54 วรรคหนึ่ง ,72 ตรีวรรคสอง 

ส่วนนายแทน และนายบรรเจิด จำเลยที่ 3-4 จำคุกคนละ 3 ปี ฐานเข้าไปยึดถือ ครอบครอง ก่อสร้าง และผู้ใด ก่อสร้าง แผ้วถาง หรือเผาป่า หรือกระทำด้วยประการใด ๆ อันเป็นการทำลายป่า หรือเข้ายึดถือหรือครอบครองป่าเพื่อตนเองหรือผู้อื่น เว้นแต่จะกระทำภายในเขตที่ได้จำแนกไว้ฯ อันเป็นความผิด ตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 9 (1) , 108 ทวิ และ พ.ร.บ.ป่าไม้ฯ มาตรา 54 วรรคหนึ่ง , 72 ตรี วรรคหนึ่ง ให้ลงโทษความผิดตาม พ.ร.บ. ป่าไม้ฯ ซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักสุด โดยโทษจำคุกไม่รอลงอาญา เนื่องจากศาลเห็นว่า เป็นเรื่องร้ายแรง