นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมว. พลังงาน ผู้ที่ถูก คสช. เรียกตัวมากที่สุดถึง 12 ครั้ง ทั้งเรียกปรับทัศนคติ และ แจ้งความดำเนินคดีอาญา จาก พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ กล่าวว่า วันนี้ เวลา 10:00 น. ผู้บริหารระดับสูงของ ฮิวแมนไรท์วอทช์ ดร. ลินดา แล็กเดอร์ (Linda Lakhdhir) ที่ปรึกษาฝ่ายกฏหมาย ภูมิภาคเอเชีย อดีตอัยการระดับสูงประจำกระทรวงยุติธรรมของสหรัฐ อีกทั้งยังเคยเป็นอาจารย์สอนในมหาวิทยาลัย ได้ขอเข้าพบนายพิชัยที่พรรคเพื่อไทย เพื่อสอบถามรายละเอียดการถูกละเมิดสิทธิมนุษยชน โดยถูกเรียกปรับทัศนคติ 8 ครั้ง และ ถูกหมายเรียกรับทราบคดีอาญา 3 ครั้ง ซึ่งการเรียกปรับทัศนคติ 8 หน มีรายละเอียดดังนี้
การ “ปรับทัศนคติ” 8 หน
1) วันที่ 23-25 พฤษภาคม, 2557 ที่ มทบ 11
2) วันที่ 30 มกราคม 2558 ที่กองทัพภาคที่ 1
3) วันที่ 21 พฤษภาคม 2558 ที่ ตึกร้างหลังสโมสรกองทัพ บก เทเวศน์
4) วันที่ 12 มิถุนายน 2558 ที่บ้าน
5) วันที่ 19 มิถุนายน 2558 ที่ สโมสรทหารบก วิภาวดี
6) วันที่ 11 สิงหาคม 2558 ที่กองทัพภาคที่ 1
7) วันที่ 9-15 กันยายน 2558 ที่ ค่ายทหารห่างจาก กทม. 2 ชม.
8)วันที่ 16 มิถุนา 2560 ที่กองทัพภาคที่ 1
ถูกเรียกดำเนินคดี 3 หน
9. วันที่ 4 สิงหาคม 2560
10. วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2561 ให้ไปพบ 15 มีนาคม 2561
11. วันที่ 16 สิงหาคม 2561
ครั้งที่ 12 ยังไม่มีการเรียกพบ
โดยการเรียกปรับทัศนคติครั้งที่ 7 ถูกกักตัว 7 วัน และถูกคลุมหัวปิดตาทั้งไปและกลับ ซึ่งในระหว่างถูกคุมตัวได้มีองค์กรระหว่างประเทศหลายองค์กรได้ออกมาทักท้วงรัฐบาล เช่น องค์กรสหประชาชาติ ฮิวแมนไรท์วอทช์ แอมเนสตี้อินเตอร์เนชั่นแนล องค์กรรัฐสภาสากล รัฐสภาสหรัฐ ฯลฯ รวมถึง ตัวแทนจากสำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติ ได้ขอเข้าพบนายพิชัยหลังจากออกมา โดยเห็นว่าเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างชัดเจนจากเพียงแค่การวิพากษ์วิจารณ์ด้านเศรษฐกิจเท่านั้น ทั้งนี้นายพิชัยได้วิพากษ์วิจารณ์การบริหารเศรษฐกิจที่เป็นจุดอ่อนของรัฐบาลมาตลอด 4 ปี โดยใช้ข้อมูลสาธารณะของรัฐ และพลเอกประยุทธ์ได้กล่าวถึงนายพิชัยหลายหนในหลายโอกาส แม้กระทั่งในการประชุมนานาชาติ จี 77 ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ อีกทั้งยังมีข่าวว่า คสช. ได้พยายามชวนนายพิชัยเข้าร่วมกับพรรคที่สนับสนุนโดย คสช. ด้วย ทั้งนี้นายพิชัยหวังว่าเหตุการณ์การละเมิดสิทธิฯ โดยการเรียกตัวแบบนี้จะต้องไม่เกิดขึ้นอีกในอนาคต และอยากถามประชาชนว่ารัฐบาล ที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างมากกับคนจำนวนมากไม่ใช่แต่เฉพาะกับนายพิชัยควรจะกลับมาเป็นรัฐบาลหลังเลือกตั้งอีกหรือไม่