ไม่พบผลการค้นหา
ส.ส.ก้าวไกล เรียกร้องรัฐบาลยุติโครงการรับฟังความเห็นที่เชิญประชาชนเพียงไม่กี่กลุ่ม ไม่ครอบคลุมสถานการณ์จริง หวังดันโครงการปั้น 'จะนะ' จ.สงขลา เป็นเมืองอุตสาหกรรม พร้อมยกบทเรียน 'นิคมมาบตาพุด' เป็นกรณีศึกษา

จากกรณีภาคประชาสังคมและภาคีเครือข่ายแนวร่วมปกป้องทรัพยากรธรรมชาติ อาทิ คณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน (กป.อพช.), กลุ่มโชโพเกอเรอ อำเภอกัลยาณิวัฒนา จังหวัดเชียงใหม่ , เครือข่ายปกาเกอะญอมีดี อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก, กลุ่มข่องโฉ่ หมู่บ้านคลิตี้ล่าง อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี เป็นต้น ได้ออกแถลงการณ์คัดค้าน รัฐบาลผลักดันโครงการ “จะนะเมืองต้นแบบอุตสาหกรรมก้าวหน้าแห่งอนาคต” ภายใต้อำนาจของศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ที่จะมีการจัดเวทีรับฟังในวันที่ 14-20 พ.ค. โดยมีการเชิญประชาชนเพียง 3 ตำบล โดยห้ามคนพื้นที่อิื่นเข้าร่วม

โดยโครงการดังกล่าวคณะรัฐมนตรี เห็นชอบอนุมัติงบประมาณจำนวน 18,680 ล้านบาท เมื่อวันที่ 21 ม.ค. 2563

ล่าสุด นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล แสดงความเห็นต่อกรณีดังกล่าวผ่านเฟซบุ๊กว่า เรามีบทเรียนเรื่องการตั้งนิคมอุตสาหกรรมหลายที่ ซึ่งรัฐไม่สามารถแก้ปัญหาเรื่องสิ่งแวดล้อมได้ ยกตัวอย่างให้เห็นภาพอย่างที่มาบตาพุดที่ทุกวันนี้ก็ต้องยอมรับกันตรงๆ ว่าปัญหาสิ่งแวดล้อมนั้นหนักหนาสาหัส

การตั้งนิคมอุตสาหกรรมเหล่านี้ได้กลายเป็นช่องทางหาเงินของคนรวย แต่กลับกลายเป็นภาระทางสุขภาพของคนยากจนที่ต้องอยู่อาศัยในสภาพแวดล้อมที่อากาศดีๆ ยังหาไม่ได้ จนทั้งเงิน จนทั้งลมหายใจ

ด้วยบทเรียนแบบนี้จึงไม่แปลกที่พี่น้องประชาชน จะกังวลว่าสถานการณ์ความล่มสลายทางสิ่งแวดล้อมแบบ นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดจะเกิดขึ้นในพื้นที่อื่น เช่นที่ อ.จะนะ ดังนั้นการให้พี่น้องประชาชนเข้าไปมีส่วนร่วมในโครงการจึงเป็นเรื่องที่มีความสำคัญมาก หากการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นในลักษณะที่ฝั่งรัฐบาลกำหนดไว้หมดแล้ว จึงเป็นเพียงละครปาหี่ที่ไม่ช่วยให้ประชาชนเข้าไปมีส่วนร่วมในการพัฒนา อ.จะนะแต่ประการใด

ทั้งนี้ หากพิจารณาต่อไปว่าการจัดเวทีดังกล่าวเกิดขึ้นในสถานการณ์ โควิด-19 ที่ประชาชนให้ความสำคัญกับปัญหาสุขภาพ และการรักษาระยะห่างทางสังคม อีกทั้งมีการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินทั่วประเทศเช่นนี้ ยิ่งเป็นภาพที่ชัดเจนว่ารัฐบาลต้องการฉวยโอกาสนี้เพื่อตัดการมีส่วนร่วมของประชาชน เพื่อให้การตั้งนิคมอุตสาหกรรมใน อ.จะนะ เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วและมีข้อขัดข้องให้น้อยที่สุด

"ด้วยเหตุผลทั้งหมดนี้ผมจึงเห็นว่ารัฐบาลจะต้องระงับเวทีรับฟังความคิดเห็นที่จะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ อย่าฉวยโอกาสแบบนี้เลยครับ อย่าทำร้ายประชาชนไปมากกว่านี้เลย" รังสิมันต์ ระบุ

อ่านเพิ่มเติม