ไม่พบผลการค้นหา
ผลสำรวจเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (9 ธ.ค.) เผยว่า โดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ และผู้ประกาศลงท้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดี มีคะแนนนิยมแซงหน้า โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในการเลือกตั้งเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ปี 2567 หลังจากที่ไบเดนกล่าวโจมตีทรัมป์ว่าเป็นคนที่ “น่ารังเกียจ” ในงานแห่งหนึ่งที่มลรัฐแคลิฟอร์เนีย เมื่อช่วงวันศุกร์ที่ผ่านมา (8 ธ.ค.)

ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ของเขา ซึ่งเป็นผลการสำรวจในประชาชนวงกว้างของประเทศ ที่สอดคล้องไปกับการศึกษาล่าสุดอื่นๆ ในขณะที่คะแนนนิยมที่ตกต่ำของไบเดน ได้สร้างความกังวลในบรรดาสมาชิกและผู้สนับสนุนพรรคเดโมแครต ก่อนที่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งสหรัฐฯ จะไปลงคะแนนเสียงในช่วงเวลาไม่ถึง 1 ปีข้างหน้า

The Wall Street Journal ระบุว่า ผลสำรวจแสดงให้เห็นว่าทรัมป์มีคะแนนนิยมนำไบเดน 4 คะแนนในอัตรา 47% ต่อ 43% นับเป็นการสำรวจครั้งแรกที่แสดงให้เห็นว่า ทรัมป์ ในฐานะอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้รับคะแนนการสนับสนุนจากการสำรวจแบบตัวต่อตัวนำหน้าไบเดน ในการท้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากการเลือกตั้งสหรัฐฯ ปี 2567

ทั้งนี้ เมื่อรวมคะแนนจากผลสำรวจของผู้สมัครที่เป็นบุคคลที่สาม และผู้สมัครอิสระที่มีศักยภาพในการลงแข่งขันท้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จำนวน 5 คนเข้าด้วยกัน ซึ่งเป็นคะแนนสนับสนุนรวมกันกว่า 17% การคำนวณคะแนนดังกล่าวจะส่งผลให้ความห่างของคะแนนนิยมทรัมป์ต่อไบเดน ขยายออกไปเป็น 6 คะแนนที่อัตรา 37 ต่อ 31

แม้ว่าไบเดนจะแสดงความปรารถนา ที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งเพื่อท้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เป็นสมัยที่ 2 แต่ผู้สนับสนุนหลายคนในพรรคเดโมแครตมีความต้องการ ที่จะให้ไบเดนถอนความพยายามในการลงท้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ อีกครั้ง เนื่องจากความกังวลว่าไบเดนจะมีอายุ 81 ปีในวันเลือกตั้ง และ 86 ปีในช่วงเวลาครบ 2 สมัย 8 ปีของเขาในการเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งจะส่งผลให้ประชาชนหมดความนิยมในตัวไบเดนลง

นอกจากนี้ การสั่งฟ้องคดีต่อ ฮันเตอร์ ไบเดน ลูกชายของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในมลรัฐแคลิฟอร์เนีย เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (7 ธ.ค.) ด้วยข้อหาทางอาญาจากการกระทำความผิดด้านภาษี 9 กระทง ส่งผลให้เกิดอุปสรรคที่ซับซ้อนขึ้นบนเส้นทางสู่การเลือกตั้งครั้งใหม่ของไบเดน

ในขณะเดียวกัน ทรัมป์ ซึ่งแม้จะเป็นผู้นำการแข่งขันเพื่อชิงตำแหน่งผู้ได้รับการเสนอชื่อจากพรรครีพับลิกันด้วยคะแนนเกือบ 50 คะแนน ตามรายงานของ RealClearPolitics ก็ยังคงประสบกับอุปสรรคบนเส้นทางทางการเมืองเช่นกัน เนื่องจากปัญหาทางกฎหมายหลายประการของทรัมป์เอง ทั้งนี้ ทรัมป์ซึ่งจะมีอายุ 78 ปีในวันเลือกตั้ง ยังคงตกอยู่ในการถูกดำเนินคดีอาญาพร้อมกันถึง 4 คดีต่อเขา ซึ่งคดีจำนวนหนึ่งเกิดจากความพยายามอันผิดกฎหมายของทรัมป์เอง ในการล้มชัยชนะการเลือกตั้งของไบเดนในปี 2563

ในงานระดมทุนเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา ไบเดนกล่าวต่อว่าทรัมป์สำหรับการกระทำของอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในวันที่ 6 ม.ค. 2564 ซึ่งเป็นวันที่ผู้สนับสนุนของทรัมป์ก่อจลาจลขึ้นในอาคารรัฐสภาสหรัฐฯ เพื่อขัดขวางไม่ให้รัฐสภารับรองผลการเลือกตั้ง “มันน่ารังเกียจ มันเป็นเรื่องน่ารังเกียจ” ไบเดนระบุกับผู้ฟัง ถึงการที่ทรัมป์เฝ้าดูการก่อจลาจลที่เกิดขึ้นผ่านทางโทรทัศน์ และไม่ได้ทำอะไรเพื่อหยุดยั้งการก่อจลาจลดังกล่าว

นอกจากนี้ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ยังอ้างถึงการสัมภาษณ์ของทรัมป์กับสำนักข่าว Fox News ในสัปดาห์นี้ ซึ่งอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ ถูกถามว่าเขาจะใช้อำนาจในทางที่ผิดอีกหรือไม่ หากเขาได้รับเลือกกลับมาเป็นประธานาธิบดีอีกครั้ง “วันก่อนเขาบอกว่าเขาจะเป็นเผด็จการวันเดียวเท่านั้น พระเจ้า วันเดียวเท่านั้น! เขายอมรับความรุนแรงทางการเมืองแทนที่จะปฏิเสธมัน” ไบเดนกล่าวโจมตีทรัมป์

ในการสุนทรพจน์ของไบเดนมีเนื้อหาเกี่ยวกับภัยคุกคาม ที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวว่าทรัมป์มีต่อประชาธิปไตยสหรัฐฯ ในขณะที่ไบเดนหลีกเลี่ยงการเอ่ยถึงสงครามอิสราเอล-กาซา โดยไบเดนระบุกับผู้ฟังผู้สนับสนุนพรรคเดโมแครตว่า “คุณคือเหตุผลที่ โดนัลด์ ทรัมป์ เป็นอดีตประธานาธิบดี หรือเขาเกลียดที่ผมบอกว่าเป็นประธานาธิบดีที่พ่ายแพ้ ผมเดาไว้เลยว่าเขาจะไม่ปรากฏตัวในพิธีสาบานตนครั้งถัดไปของผม”

แม้ว่าผลการสำรวจของ The Wall Street Journal จะทำให้สมาชิกพรรคเดโมแครตหลายคนรู้สึกตื่นตระหนก แต่ผู้สนับสนุนพรรคเดโมแครตคนอื่นๆ กล่าวเตือนว่าสังคมไม่ควรอ่านผลสำรวจมากเกินไป โดยผู้สังเกตการณ์บางคนกล่าวว่าพฤติกรรมดังกล่าวเป็น “โรคบ้าโพล” ซึ่งเป็นความวิตกกังวลที่เกิดจากความเชื่อที่ว่า ผลการสำรวจเชิงลบที่มีต่อเนื่องกันแสดงให้เห็นว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอีก 1 ปีต่อจากนี้ แทนที่จะให้ โอกาสที่จะกระทำการ หรือลงคะแนนเสียงเพื่อป้องกันไม่ให้สิ่งที่ผลสำรวจระบุเอาไว้เกิดขึ้นจริง

The Wall Street Journal ยังตั้งข้อสังเกตอีกว่า แม้ว่าตัวเลขคะแนนนิยมดังกล่าวจะแสดงให้เห็นว่า สมาชิกพรรคเดโมแครตจำนวนมากไม่พอใจต่อไบเดนอย่างเป็นวงกว้าง แต่พรรคเดโมแครตอาจจะยังสนับสนุนไบเดนต่ออีกครั้งในวันเลือกตั้งปี 2567 โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากทรัมป์เป็นผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน


ที่มา:

https://www.theguardian.com/us-news/2023/dec/09/trump-biden-poll-election-presidential?CMP=Share_AndroidApp_Other&fbclid=IwAR3nAe3Zho8W6JfMEQtM11g-KgXaPvZ96jmjpf5bJrOnykGLy3D35eWl7Hg