นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่ประชุมวุฒิสภาได้มีมติตั้งพล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา เป็นกรรมมาธิการในคณะกรรมาธิการการท่องเที่ยววุฒิสภา ว่า ถ้าเกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ในยุครัฐบาลอื่น คงถูกกล่าวหาว่าตั้งพวกพ้องมารับประโยชน์ แต่ยุคนี้ยิ่งกว่าตั้งพวกพ้อง เพราะที่ประชุมวุฒิสภาตั้งน้องท่านผู้นำมารับประโยชน์เป็นกรรมมาธิการ
ทั้งที่ พล.อ.ปรีชา ผู้มีผลงานขาดประชุมสนช. 394 วัน จาก 400 วัน แต่ก็ยังถูกเลือกให้เป็น ส.ว.ด้วยเหตุใด ประชาชนพอทราบที่มา ไม่แน่ใจว่าคนในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว เมื่อเห็นข่าวการแต่งตั้งพล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา เป็นกรรมาธิการการท่องเที่ยว ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ไม่รู้ว่าจะมีความหวัง หรือหมดหวัง มากกว่ากัน
หรือหากแต่งตั้ง พล.อ.ปรีชา ไปอยู่ในสัดส่วนคณะกรรมาธิการการทหารและความมั่นคงของรัฐ หรือ คณะกรรมาธิการศึกษาตรวจสอบเรื่องการทุจริต ประพฤติมิชอบ และเสริมสร้างธรรมาภิบาล เพื่อป้องกันไม่ให้มีการทุจริตคอรัปชัน ป้องกันไม่ให้มีการตั้งบริษัทในค่ายทหารเพื่อมารับงานของกองทัพ เสียงวิพากษ์วิจารณ์น่าจะเบากว่านี้
นายอนุสรณ์ กล่าวว่า ที่น่าตกใจเมื่อเปิดเข้าไปดูรายชื่อกรรมาธิการการท่องเที่ยว พบว่ามีถึง 14 นายพลนั่งเป็นกรรมาธิการ ในช่วงที่ผ่านมามีการกระทำของแม่น้ำ 5 สาย รวมถึงส.ว.ในลักษณะผลประโยชน์ทับซ้อน ตั้งเครือญาติลูกหลานมารับตำแหน่งกินเงินเดือนจากภาษีประชาชนเป็นการเอาเปรียบสังคมหลายกรณี ส.ว.จะตั้งใครก็เป็นสิทธิแต่ควรเคารพและฟังเสียงประชาชนบ้าง ตอนประชาชนเรียกร้องให้สละเงินเดือนส.ว. เนื่องจากมองไม่เห็นประโยชน์ เหล่าส.ว.กลับเพิกเฉย แล้วยังมาแต่งตั้งกรรมาธิการที่เป็นการไม่เคารพและฝืนความรู้สึกประชาชนอีก
"กรรมาธิการการท่องเที่ยววุฒิสภา ที่มีถึง 14 นายพลนั่งอยู่ในกรรมาธิการ ตกลงตั้งใจจะให้มาทำงาน ชวนคนไปรบหรือชวนคนไปเที่ยว ประชาชนจะมั่นใจได้อย่างไรว่าพวกท่านจะไม่ขาด ลาการประชุม จะใช้ความรู้ความสามารถเพื่อการพัฒนาการท่องเที่ยวได้" นายอนุสรณ์ กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :