ที่ตลาดสี่แยกบางนา ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้สมัครฯผู้ว่ากทม. เบอร์ 8 เข้ากราบนมัสการเจ้าอาวาสวัดบางนาใน ขอนโยบายและรับพรเอาฤกษ์เอาชัย โดยเจ้าอาวาสได้ฝากให้ดูแลเรื่องลำคลองที่มีน้ำเน่าเสีย ด้าน ชัชชาติ ระบุว่า ลำคลองเป็นเส้นเลือดฝอยของ กทม. ย้ำว่าสามารถแก้ไขได้อย่างแน่นอน วันนี้จึงจะเดินทางต่อไปยังวัดบางนานอก เพื่อสำรวจต้นตอการปล่อยน้ำเสียต่อไป จากนั้นได้เริ่มต้นลงพื้นที่หาเสียงพูดคุยกับผู้ค้าในตลาดและประชาชนทั่วไปถึงความเป็นอยู่ในชุมชน บางส่วนเข้ามาร่วมถ่ายภาพเป็นที่ระลึก และพูดคุยอย่างเป็นกันเอง
ชัชชาติ กล่าวว่า สิ่งที่ชัดเจนเป็นอันดับแรก คือ สภาพเศรษฐกิจซบเซา กำลังซื้อน้อยลง สินค้าราคาแพงขึ้น ปัญหาเศรษฐกิจจึงต้องได้รับการแก้ไขโดยด่วน เพราะส่งผลกระทบเป็นวงจรกับด้านอื่นๆ อาทิ การท่องเที่ยว ดังนั้น ต้องเร่งแก้ปัญหาเรื่องการระบาดของโควิด-19 นำความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวกลับมา เพราะเมื่อมีนักท่องเที่ยวเข้ามา กิจกรรมการค้าขายก็จะดีขึ้นโดยหลังจากนี้ไป มองว่า กทม. ต้องให้ความสำคัญกับเรื่องการกระตุ้นเศรษฐกิจมากยิ่งขึ้น ต้องช่วยเหลือพ่อค้าแม่ค้าให้มากขึ้น ต้องมองว่ามีพื้นที่ใดที่สามารถเปิดเป็นตลาดให้พ่อค้าแม่ค้าขายของได้ โดยกทม.เป็นคนกลางดำเนินการให้ ช่วยลดค่าใช้จ่ายประชาชน
อันดับสอง คือ เรื่องความเป็นอยู่ ปัญหาน้ำท่วมขังในตรอกซอย สำหรับพื้นที่ตรงนี้ การระบายน้ำลงสู่คลองบางอ้อที่จะไหลลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยายังพบปัญหาว่า เครื่องสูบน้ำทำงานไม่เต็มประสิทธิภาพอยู่
อันดับสาม คือ การคมนาคม จะเห็นได้ว่า เมืองเริ่มขยับเข้ามาในเขตบางนามากขึ้น มีความเป็นศูนย์กลางคมนาคม ประกอบด้วย รถไฟฟ้า BTS ทางด่วนอุตราภิมุข ถนนบางนา-ตราด แต่การที่ค่าโดยสารแพงยังคงเป็นปัญหาอยู่ หากไม่ดูแลให้ดี ประชาชนจะเดินทางกันลำบากมากยิ่งขึ้น เรื่องคมนาคมจึงสำคัญมาก เพราะเขตบางนาเป็นจุดเชื่อมต่อกับระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ EEC โดยขณะนี้ ทาง กทม. มีโครงการจัดทำรถรางจากเขตบางนาไปสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งโครงการนี้จะต้องมีการทบทวนให้ดีว่า กทม.จะลงทุนเอง หรือให้รัฐบาล โดยการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) รับผิดชอบ
นอกจากนี้ ยังมีปัญหาเรื่องสาธารณสุข เขตบางนาไม่ได้มีโรงพยาบาลของ กทม.เลย มีเพียงศูนย์ผู้ป่วยนอกเล็กๆตรงถนนสรรพาวุธ ดังนั้น กทม.จึงต้องผลักดันอย่างเต็มที่เพื่อทำโรงพยาบาลในเขตบางนา และต้องกระจายศูนย์บริการสาธารณสุขลงสู่พื้นที่ชุมชนให้มากขึ้น รวมถึงเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับเขตบางนา เช่น ช่วงใต้ทางด่วน ตนเชื่อว่า เรื่องเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องยาก กทม.สามารถทำได้ทันที
เมื่อถามถึงกระแสป้ายหาเสียงที่มีการปรับขนาดให้เล็กลง ชัชชาติ กล่าวว่า ดีใจมาก ยังเชื่อว่า ประชาชนจะเลือกตนที่นโยบาย ไม่ใช่ป้ายหาเสียง เมื่อคน กทม. สะท้อนมาว่าป้ายหาเสียงบดบังวิสัยทัศน์ จึงมองว่าต้องลดขนาดป้าย และบอกว่าเป็นแนวทางที่ดีสำหรับผู้สมัครในอนาคตที่มีงบประมาณน้อย คนที่ไม่มีงบประมาณสามารถเข้ามาแข่งขันในสนามนี้ได้ โดยใช้งบน้อยลงและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
พร้อมกล่าวย้ำว่า ป้ายหาเสียงในปัจจุบันมีปัญหาหลายอย่าง นอกจากบดบังสายตาสำหรับผู้ขับขี่แล้ว ยังกระทบถึงคนทั่วไปที่ยืนรอรถโดยสารสาธารณะ หากทำป้ายหาเสียงให้เล็กลง การหาเสียงจะสะอาดขึ้น นับว่าเป็นไอเดียที่ผู้สมัครหลายคนเริ่มทำแล้วเช่นกัน เพราะทุกคนอาสามาทำให้เมืองดีขึ้น หากช่วยกันได้ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี
ชัชชาติ ยังพูดเล่นกับสื่อมวลชนด้วยว่า ช่วยหาป้ายหาเสียงของตนให้หน่อย เพราะตนเองยังหาไม่เจอ และเปิดเผยอีกว่า กำลังเตรียมออกป้ายหาเสียงรูปแบบใหม่ ขนาด A3 ทำด้วยกระดาษลูกฟูก ราคาไม่แพง ซึ่งขนาดสูงสุดที่ กกต.กำหนดไว้อยู่ที่ 1.2 เมตร คาดว่าน่าจะติดตั้งเร็วๆนี้