อัยการไต้หวันกล่าวหาว่า อดีตเจ้าหน้าที่รัฐทั้งคู่จัดเที่ยวการเดินทางฟรี 13 ครั้งไปยังจีนแผ่นดินใหญ่ ให้แก่อดีตเจ้าหน้าที่ 48 คนตั้งแต่ปี 2556-2561 โดยก่อนหน้านี้ ชายทั้งสองปฏิเสธว่า พวกเขาไม่ได้จัดหาสายลับให้กับจีน อย่างไรก็ดี อัยการไต้หวันกล่าวหาว่าการประชุมดังกล่าว ส่งเสริมให้เกิดการรวมชาติจีนกับไต้หวัน
เจ้าหน้าที่ระดับสูงทั้งสองคน ที่ถูกกล่าวหาจากทางการไต้หวันว่าเป็นสายลับให้จีน คือ พลเรือตรี เซียฟู่เซียง และอดีต ส.ส.โลจื้อหมิง โดยทั้งคู่อาจถูกจำคุกสูงสุด 5 ปี หากถูกตัดสินว่ามีความผิดจริง
จีนถือว่าไต้หวันเป็นมณฑลหนึ่งของตัวเอง และให้คำมั่นว่าจีนจะยึดไต้หวัน ซึ่งเป็นเกาะที่มีอำนาจประชาธิปไตยปกครองตัวเอง กลับคืนมาเป็นของพรรคคอมมิวนิสต์ โดยอาจมีการใช้กำลังหากมีความจำเป็น
ทั้งนี้ สหรัฐฯ ซึ่งเป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่งที่สุดของไต้หวัน ได้ออกมาเตือนเมื่อเดือน ต.ค. ว่า จีนกำลังดำเนินการรวมชาติในระยะเวลาที่เร็วกว่าที่มีการคาดการณ์เอาไว้มาก โดยในช่วงเวลาเดียวกันนั้นเอง สีจิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ยังคว้าการเป็นประธานาธิบดีวาระที่ 3 อีกทั้งการเป็นผู้นำสูงสุดของพรรคคอมมิวนิสต์และกองทัพ อย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน
รัฐบาลจีนและไต้หวันต่างสอดแนมซึ่งกันและกัน ตั้งแต่สิ้นสุดสงครามกลางเมืองในปี 2492 โดยพรรคคอมมิวนิสต์จีนสามารถเข้าควบคุมแผ่นดินใหญ่ ในขณะที่กลุ่มชาตินิยมสาธารณรัฐจีนลี้ภัยไปตั้งรกรากอยู่บนเกาะไต้หวัน
อัยการไต้หวันกล่าวว่า เซียและโล มีส่วนเกี่ยวข้องกับองค์กรของจีน ที่สนับสนุนการรวมชาติตั้งแต่ปี 2556 ทั้งนี้ ชายทั้งสองถูกควบคุมตัวตั้งแต่เดือน ม.ค. แต่ไม่มีหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่า เจ้าหน้าที่เกษียณอายุที่เข้าร่วมขบวนการเหล่านี้ ได้รวบรวมข้อมูลที่เป็นความลับของไต้หวันไปให้แก่จีนคอมมิวนิสต์หรือไม่ ดังนั้นพวกเขาจึงถูกกันตัวเอาไว้เป็นพยาน
ชื่อของชายทั้งสองปรากฏขึ้น ในขณะที่อัยการไต้หวันได้ทำการสอบสวนนาวาอากาศเอกคนหนึ่ง ซึ่งถูกกล่าวหาว่าคัดเลือกสมาชิกปัจจุบันของกองทัพเรือ และกองทัพอากาศไต้หวันอย่างน้อย 6 คนเ ข้าไปเป็นสายลับให้แก่จีนเป็นเวลากว่า 8 ปี “เราขอเรียกร้องให้นายทหารที่เกษียณอายุราชการแล้ว ให้ใช้ความระมัดระวังเกี่ยวกับผลประโยชน์ที่ไม่สมควร เมื่อพวกเขาไปร่วมกิจกรรมในจีน เพื่อหลีกเลี่ยงการตกหลุมพราง” ของรัฐบาลคอมมิวนิสต์จีน อัยการไต้หวันกล่าวเสริม
อดีตเจ้าหน้าที่ทหารระดับสูงของไต้หวันหลายคน ถูกกล่าวหาว่าช่วยเหลือการทำข่าวกรองให้จีนในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยในเดือน ม.ค. มีพลตรีจากกองทัพอากาศนายหนึ่ง ถูกปลดประจำการจากตัดสินว่ามีความผิดในการรับอาหารและเที่ยวเดินทางจากนักธุรกิจชาวฮ่องกง ซึ่งถูกดำเนินการในนามของรัฐบาลจีน อย่างไรก็ดี การพิจารณาคดีของพลตรีรายดังกล่าวถูกระงับลง เนื่องจากเขาสำนึกผิดและไม่มีประวัติอาชญากรรมมาก่อน
ที่มา: