รายการ Talking Thailand ประจำวันที่ 1 เมษายน 2563
หลังโฆษก ศบค. บอกอยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ ไม่ได้ผล เพราะยอดติดเชื้อโควิด-19 ในบ้านไม่ลด จ่อผุดมาตรการใหม่มาคุม นักวิเคราะห์ Talking Thailand แนะให้มองข้อจำกัดคนไทย รับมือการโรคระบาด...มีไม่เท่ากัน
“คำผกา” ขอแถม “โควิด-19” กำลังทำให้บางคนยกตัวเองเป็น “คนดี” คอยจับผิดคนไม่ยอมทำตามมาตรการรัฐ
พ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. เปิดเผยสถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ว่า ประเทศไทย มีผู้ติดเชื้อ เพิ่ม 120 ราย (ยอดสะสม 1,771ราย) เสียชีวิตเพิ่ม 2 ราย (ยอดเสียชีวิตสะสม 12 ราย)
โดยผู้เสียชีวิตรายที่ 11 เป็นเพศชาย อายุ 79 ปี อาศัยอยู่ในสามจังหวัดจังหวัดชายแดนภาคใต้ มีโรคประจำตัว เบาหวาน ไตวายเรื้อรัง มีประวัติเดินทางไปร่วมงานแต่งงานที่ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 7 มี.ค. มีอาการป่วย / วันที่ 20 มี.ค. เข้ารักษา / วันที่ 23 มี.ค. อาการไม่ดีขึ้นและมารักษาอีกครั้งในวันที่ 28 มี.ค. / ก่อนจะเสียชีวิตวันที่ 31 มี.ค.
ส่วนรายที่ 12 เป็นชายอายุ 58 ปี เป็นนักธุรกิจ กลับมาจากประเทศอังกฤษ กลับไทยวันที่ 15 มี.ค. เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลเอกชน และเสียชีวิตวันที่ 31 มี.ค.ซึ่งกระทรวงสาธารณสุข จะประสานกับโรงพยาบาลเอกชนดังกล่าวเพื่อขอข้อมูลและหาสาเหตุต่อไป
น.พ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า จะเห็นว่าจำนวนยังพุ่งขึ้น แม้จะดีกว่าเมื่อวันที่ 30-31 มี.ค. แต่ไม่เป็นที่น่าพึงพอใจ เพราะตัวเลขยังเป็นระดับร้อยกว่า โดยผู้ป่วยใหม่ อยู่ใน กทม.43 ราย สมุทรปราการ 23 ราย ภูเก็ต 11 ราย และผู้ป่วยสะสมอยู่ใน กทม.850 ราย นนทบุรี 104 ราย ถือว่ายังกระจุกตัวอยู่ จากการประเมินผู้ป่วยใน กทม.จะแพร่เชื้อไปยังแวดล้อมได้ 1 ต่อ 3 คน ซึ่งน่ากังวลมากๆ ถ้าไม่อยากให้ตัวเลขทวีคูณทุกคนต้องช่วยกัน
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ตัวเลขที่น่ากังวลคือ แม้ประชาชนจะหยุดเชื้อ เพื่อชาติ ด้วยการอยู่บ้าน แต่ตัวเลขจำนวนการติดเชื้อในบ้านไม่ลดลง จึงต้องเพิ่มมาตรการต่อตัวเอง
บ้านไหนมีสมาชิกมากกว่า 1 คนถือว่าเสี่ยง จึงต้องยึดหลักกินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือบ่อย ๆ ใส่หน้ากากอนามัย เว้นระยะห่างต่อบุคคลในบ้าน 2 เมตร ซึ่งต้องทำทุกวัน
1 เดือนที่ผ่านมา เรามีการแพร่ระบาดไปยังจังหวัดต่างๆ อยู่ในภาวะวิกฤติจนต้องประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ซึ่งขณะนี้ประกาศใช้มาได้ยังไม่ถึงสัปดาห์ ตัวเลขยังไม่สะท้อนมาตรการดังกล่าว สิ่งที่จะสะท้อนคือตัวเลขในปลายสัปดาห์นี้ถึงต้นสัปดาห์หน้า เชื่อว่ามันน่าจะลดลง แต่ตอนนี้ยังไม่เป็นเช่นนั้น จึงต้องเข้มข้นยิ่งกว่านี้ เป้าหมายความร่วมมือจากประชาชนต้องมากกว่า 90%