World on Web ประจำวันที่ 31 พฤษภาคม 2559
CNN: ยิงกอริลลาเป็นความผิดของแม่เด็ก
สำนักข่าว CNN ของสหรัฐฯ เกาะติดประเด็นที่เป็นดราม่ากันมาตั้งแต่ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา จากการที่สวนสัตว์ในสหรัฐฯต้องยิงกอริลลาตาย หลังจากมีเด็กวัย 3 ขวบปีนกรงกอริลลาแล้วตกลงไปในกรง ทำให้ชาวอเมริกันนับแสนคนเข้าชื่อออนไลน์ เรียกร้องความยุติธรรมให้กับฮารัมบี กอริลลาที่ถูกยิง และขอให้มีการดำเนินคดีกับพ่อแม่เด็ก เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นเพราะแม่ของเด็กประมาทเลินเล่อ ไม่ดูแลลูก ทำให้เกิดโศกนาฏกรรมที่กอริลลาถูกยิงตายโดยไม่จำเป็น นอกจากนี้คนจำนวนมากยังวิพากษ์วิจารณ์สวนสัตว์ว่าทำเกินกว่าเหตุด้วย
ล่าสุด ทางผู้อำนวยการสวนสัตว์ที่เกิดเหตุ ก็ออกมายืนยันว่าเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ทำถูกต้องแล้ว และหากเกิดเหตุการณ์ทำนองนี้อีกครั้ง เจ้าหน้าที่ก็จะตัดสินใจแบบเดิม เนื่องจากการช่วยชีวิตเด็กสำคัญที่สุด แม้ว่าทางสวนสัตว์จะเสียใจอย่างยิ่งที่ต้องยิงกอริลลาฮารัมบีก็ตาม
BBC: อดีตผู้นำเผด็จการชาดถูกจำคุกข้อหาละเมิดสิทธิมนุษยชน
BBC ของอังกฤษ จับประเด็นที่นายฮิเซน ฮาเบร อดีตประธานาธิบดีเผด็จการของชาด ประเทศเล็กๆในแอฟริกากลาง ถูกศาลพิเศษที่จัดตั้งขึ้นภายใต้การสนับสนุนของสหภาพแอฟริกา หรือ AU ตัดสินจำคุกตลอดชีวิตในข้อหาอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ โดยเขาถูกตัดสินว่ามีความผิดจริงฐานข่มขืน บังคับคนเป็นทาสทางเพศ และสั่งสังหารประชาชนกว่า 40,000 คนภายใต้การปกครองอย่างเผด็จการเมื่อปี 1982-1990
การตัดสินคดีดังกล่าวได้รับคำชื่นชมอย่างมากจากเหยื่อและญาติของผู้เสียชีวิตภายใต้การปกครองของฮาเบร นอกจากนี้ นี่ยังเป็นครั้งแรกที่อดีตผู้นำแอฟริกันถูกตัดสินโทษในประเทศแอฟริกันเอง หลังจากในระยะหลายปีที่ผ่านมา ประชาชนวิพากษ์วิจารณ์ว่าอดีตผู้นำเผด็จการที่ถูกตั้งข้อหาอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ ไม่ควรถูกนำตัวไปตัดสินในศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือ ICJ ที่กรุงเฮก ซึ่งอยู่ใต้อิทธิพลตะวันตก แต่สมควรมีการพิจารณาโทษกันเองในกลุ่มประเทศแอฟริกัน
Asian Correspondent: ปธน.ฟิลิปปินส์ไม่ปรากฏตัวในงานประกาศรับรองตำแหน่ง
Asian Correspondent ซึ่งติดตามข่าวสารในเอเชียแปซิฟิก พาดหัวข่าวหน้าหนึ่งเป็นเรื่องของว่าที่ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ โรดริโก ดูแตร์เต ที่ยังคงความมีสีสันเป็นตัวของตัวเองแม้ได้ขึ้นสู่ตำแหน่งประธานาธิบดีแล้ว โดยเมื่อวานนี้ รัฐสภาฟิลิปปินส์ได้มีพิธีประกาศรับรองว่าดูแตร์เตจะได้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีคนต่อไปของประเทศอย่างเป็นทางการ แต่ตัวเขาเองกลับไม่ยอมเข้าร่วมในพิธีนี้ โดยดูแตร์เตประกาศล่วงหน้าตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้วว่าเขาจะไม่เข้าพิธี แต่จะไป "ทำธุระ" ในเมืองดาเบา ซึ่งเป็นเมืองที่เขาเป็นนายกเทศมนตรีมานานกว่า 22 ปีแทน
ดูแตร์เตจะขึ้นดำรงตำแหน่งผู้นำฟิลิปปินส์อย่างเป็นทางการในเดือนหน้า และจะประกาศรายชื่อคณะรัฐมนตรีในวันนี้ แต่ขณะนี้เขาก็ได้ประกาศนโยบายปฏิรูปครั้งใหญ่หลายประการแล้ว เช่นการเปลี่ย��เวลาทำงานของประธานาธิบดีจาก 8 โมงเช้าถึง 5 โมงเย็น เป็นบ่ายโมงถึงเที่ยงคืนแทน รวมถึงจะยังพักในดาเบา และจะนั่งเครื่องบินไปทำงานที่มะนิลาทุกวันแทนการย้ายเข้าไปอยู่ในทำเนียบประธานาธิบดี