World on Web ประจำวันที่ 4 พฤษภาคม 2559
NY Times: ทรัมป์ชนะหยั่งเสียงอินเดียนา
นายโดนัลด์ ทรัมป์ ชนะการหยั่งเสียงเลือกตัวแทนพรรครีพับลิกัน ชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่มลรัฐอินเดียนา โดยผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการออกมาว่านายทรัมป์ได้คะแนนไปมากกว่าร้อยละ 53 ส่วนนายเท็ด ครูซและนายจอห์น เคสิก คู่แข่งของนายทรัมป์ได้เสียงไปเพียงร้อยละ 35 และ ร้อยละ 8 เท่านั้น ซึ่งถือว่าแพ้ไม่เป็นท่า ทำให้นายทรัมป์เหลือเดเลเกตส์อีกเพียงไม่ถึง 200 คนเท่านั้นก็จะถึง 1,237 คน ซึ่งจะทำให้ไม่ต้องมีโหวตตัวแทนพรรคในการประชุมใหญ่ของพรรคอีกต่อไป เพราะการอาจทำให้ผลพลิกล็อก เพราะสมาชิกรีพับลิกิกันจำนวนมากไม่ชอบนายทรัมป์
ขณะที่การหยั่งเสียงของเดโมแครตที่อินเดียนาสูสีกันมาก โดยนายเบอร์นี แซนเดอร์สได้คะแนนนำที่ร้อยละ 51 ส่วนฮิลลารี คลินตันได้คะแนนเสียงไปร้อยละ 48 แม้นายแซนเดอร์สจะมีท่าทีอ่อนลงมาบ้างแล้ว ส่วนนางคลินตันก็บอกชัดเจนว่า เธอต้องการชนะการหยั่งเสียงอย่างสบายใจ เพื่อมุ่งความสนใจไปที่การเลือกตั้งทั่วไป เพราะรู้ว่าการแข่งขันกับนายทรัมป์เป็นงานหนัก เพราะนายทรัมป์เป็นคนที่คิดจะพูดหรือทำอะไรตามใจ จึงต้องพยายามทำให้ประชาชนเห็นว่าอะไรเป็นเรื่องที่สำคัญสำหรับประเทศ
BBC: ครูซชี้ ทรัมป์โกหกโยงพ่อครูซกับการตายของ JFK
การแข่งขันดุเดือดขึ้น การสาดโคลนใส่กันของผู้สมัครพรรครีพับลิกันก็หนักข้อขึ้น โดยนายครูซเตือนว่า สหรัฐฯจะตกนรก ถ้านายทรัมป์ได้เป็นประธานาธิบดี และบอกว่านายทรัมป์เป็นพวกชอบโกหกอย่างน่ารังเกียจ และเป็นคนเจ้าชู้ หลงตัวเอง หลังจากที่นายทรัมป์ปราศรัยก่อนการหยั่งเสียงที่มลรัฐอินเดียนาโจมตีว่า พ่อของนายครูซมีส่วนเกี่ยวข้องกับนายลี ฮาร์วี ออสวาล์ด มือสังหารประธานาธิบดีจอห์น เอฟ เคนเนดี
ผู้สื่อข่าวบีบีซีมองว่า คำพูดโจมตีแรงๆของนายทรัมป์แสดงให้เห็นว่า นายทรัมป์พยายามพูดทำลายนายครูซให้แพ้ราบคาบ และถอนตัวจากการแข่งขันหลังการหยั่งเสียงที่อินเดียนา ขณะที่นายครูซก็พยายามใช้คำแรงๆตอบโต้นายทรัมป์เพื่อทำลายคะแนนนิยมนายทรัมป์ เพราะทำมาทุกวิธีแล้ว ทั้งประกาศนางคาร์ลี ฟิโอรินาเป็นรันนิงเมท หาเสียสนับสนุนจากผู้ใหญ่ในพรรค แต่ก็ยังแพ้การหยั่งเสียงอยู่ดีจึงต้องดูว่า หลังการหยั่งเสียงที่อินเดียนา นายครูซจะสู้ต่ออย่างไร
France24: ข้อตกลงหยุดยิงในอเลปโป
นายจอห์น แคร์รี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐฯ กล่าวระหว่างการประชุมที่นครเจนีวาของสวิตเซอร์แลนด์ เพื่อหารือข้อตกลงหยุดยิงในเมืองอเลปโปของซีเรีย และสหรัฐฯจะไม่ยอมให้เมืองอเลปโปล่มสลาย หลังพลเรือนนับร้อยเสียชีวิตจากการโจมตีของรัฐบาลซีเรียและรัสเซีย โดยนายแคร์รียังเตือนว่า ถ้านายบาชาร์ อัล-อัสซาด ประธานาธิบดีซีเรียยังโจมตีเมืองอเลปโปต่อ จะมีผลร้ายแรงตามมาเช่น ข้อตกลงหยุดยิงในพื้นที่อื่นๆก็จะล่ม และกลับไปทำสงครามกันต่อ ซึ่งนายแคร์รีมองว่า รัสเซียคงไม่ต้องการแบบนั้น
ด้านนายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของรัสเซียกล่าวหลังพบทูตยูเอ็นว่า จะมีการประกาศหยุดยิงในเมืองอเลปโปในไม่กี่ชั่วโมงที่จะถึงนี้ และรัสเซียกับสหรัฐฯก็จะตั้งศูนย์เฝ้าระวังการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงในซีเรียร่วมกันด้วย