นักวิเคราห์ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย ระบุ ราคาคอนโดมิเนียมเขตชานเมืองเชื่อมต่อกับ ระบบขนส่งมวลชน เริ่มเปลี่ยนกลุ่มไปสู่ตลาดระดับกลาง-สูง เพื่อแสดงให้เห็นว่าที่ดินมีราคาสูงขึ้น และบางโครงการอยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้าในอนาคต
บริษัท ไนท์แฟรงค์ ชาร์เตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยตัวเลขตลาดคอนโดมิเนียมในกรุงเทพ ช่วงไตรมาส 2 ของปี 2558 ยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยพบว่าพื้นที่กรุงเทพฯ รอบนอก เปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมใหม่ คิดเป็น 73% รองลงมาคือพื้นที่เขตชานเมือง มีการเปิดตัวโครงการใหม่ที่ 21% และ เขตเมืองเปิดตัว 6%ของซัพพลายทั้งหมด
สาเหตุที่การเปิดตัวโครงการใหม่อยู่รอบนอกกรุงเทพมหานคร เนื่องจากการขาดแคลนที่ดินและมูลค่าที่ดินทำเลในเมือง เป็นอุปสรรคที่สำคัญสำหรับการพัฒนาโครงการ ซึ่งเป็นปัญหาสูงสุดในตอนนี้ ทำให้โครงการเปิดตัวใหม่ในเขตเมืองส่วนใหญ่จึงเป็นโครงการเกรดเอและโครงการในระดับที่เหนือขึ้นไป เพื่อแสดงให้เห็นในราคาซึ่งเป็นปัจจัยของค่าที่ดินราคา สูง
ส่วนคอนโดมีเนียมที่เติบโตช้าที่สุด คือ ตลาดระดับกลาง ที่มีราคายังเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ แต่ทำเลที่ตั้งห่างไกลจากระบบขนส่งมวลชน ขณะที่ตลาดคอนโดระดับไพร์มและซุปเปอร์ไพร์ม ยังเติบโตและมียอดขายที่ดีขึ้น เนื่องจากความต้องการของกลุ่มผู้ซื้อที่ร่ำรวยยังคงแข็งแกร่ง แม้คอนโดมิเนียมไฮเอนด์ที่มีราคาขายเฉลี่ย 150,000 บาทต่อตารางเมตร ทำให้โครงการที่มีชื่อเสียงในทำเลไพรม์ สามารถขายได้อย่างรวดเร็ว สำหรับปริมาณคอนโดมิเนียมในช่วงปลายไตรมาสที่ 2 ของปีนี้อยู่ที่ 362,697 ยูนิต เพิ่มขึ้น 4.2% จากไตรมาสก่อนหน้า
นางสาวริษิณี สาริกบุตร ผู้อำนวยการ หัวหน้าฝ่ายวิจัยและที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ ไนท์แฟรงค์ ชาร์เตอร์ กล่าวว่า แนวโน้มของผู้ประกอบการพัฒนาโครงการใหม่ในพื้นที่เขตชานเมืองเชื่อมต่อกับระบบขนส่งมวลชน กำลังเริ่มเปลี่ยนกลุ่มไปสู่ตลาดระดับกลาง-สูง เพื่อแสดงให้เห็นว่าที่ดินมีราคาสูงขึ้น และบางโครงการอยู่ในเขตที่ตั้งใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าในอนาคต เช่น โครงการคอนโดแอสไปร์ เอราวัณ อยู่ห่างจากสถานีพิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ 50 เมตร มีกำหนดเปิดตัวในปี 2563 หรือ โครงการ ลุมพินี มิกซ์ เทพารักษ์ –ศรีนครินทร์ อยู่ใกล้กับรถไฟฟ้า MRT สายสีเหลืองในอนาคต
ทั้งนี้ ราคาคอนโดพื้นที่เขตชานเมืองสูงขึ้นกว่าช่วงที่ผ่านมา โดยไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ ราคาขายเฉลี่ยในเขตนี้อยู่ที่ 127,578 บาท ต่อตารางเมตร เพิ่มขึ้นเป็น 15.6% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน
สำหรับพื้นที่ที่น่าเป็นห่วง อยู่ในกรุงเทพรอบนอก ที่โครงการเปิดตัวใหม่มีราคาสูงเกินไป ด้วยราคาที่เท่ากับยูนิตที่เทียบกันได้ในเขตชานเมือง ซึ่งเข้าถึงระบบขนส่งมวลชนและศูนย์กลางธุรกิจได้สะดวกยิ่งขึ้น การขาดแคลนที่ดินในเขตเมืองและเขตชานเมืองระดับไพรม์จะบีบให้ราคาสูงขึ้นโครงการพัฒนาในย่านศูนย์กลางธุรกิจส่วนใหญ่ในที่ดินชุดสุดท้ายจะเป็นโครงการระดับซุปเปอร์ไพร์มและผู้พัฒนาโครงการมักปล่อยขายยูนิตในมืออย่างช้าๆ เพื่อผลประโยชน์จากการเพิ่มมูลค่าหรือเพื่อนขายยูนิตระดับซุปเปอร์ไพร์มบนโครงสร้างแบบเจ้าของกรรมสิทธิ์แบบเช่าซื้อในที่ดินระดับไพรม์ของรัฐ