แกรมมี่ รับเงินกว่า 766 ล้านบาท หลังเพิ่มทุนได้สำเร็จ พร้อมเดินหน้าการลงทุนทีวีดิจิตอลเต็มที่ ส่วนธุรกิจเพย์ทีวี คาดว่าไตรมาส 3 ปีนี้ จะมีกำไรเพิ่มขึ้น 82% จากไตรมาสก่อนหน้า
นางสาวบุษบา ดาวเรือง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า ขณะนี้ การเพิ่มทุน ได้จัดสรรเสร็จเรียบร้อยแล้ว ซึ่งในการจัดสรรหุ้นให้ผู้ถือหุ้นเดิม ในอัตราส่วน 10 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ ราคา 13 บาท 50 สตางค์นั้น บริษัทได้รับเงินสดกว่า 766 ล้านบาท และในส่วนการจัดสรรเพื่อเสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนแบบเฉพาะเจาะจง จำนวน 126 ล้าน 8 แสน 8 หมื่นหุ้นนั้น ได้รับผลตอบรับที่ดี จากนักลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงบริษัทจดทะเบียน และกลุ่มนักลงทุน High Net Worth โดยยอดจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนสูงกว่ายอดเสนอขาย ในอัตราส่วนมากถึง 1.20 เท่า สะท้อนความมั่นใจของนักลงทุน ที่มีต่อศักยภาพการดำเนินธุรกิจของแกรมมี่ ที่จะเติบโตในอนาคต
ผลจากการระดมทุนครั้งนี้ ทำให้แกรมมี่ ได้รับเงินสดทั้งสิ้น 2 พัน 4 ร้อย 79 ล้านบาท เป็นการขยายฐานนักลงทุนของบริษัท , เพิ่มสัดส่วน Free Float เสริมสภาพคล่องของหลักทรัพย์ และทำให้บริษัทดำรงอัตราส่วนทางการเงินอยู่ในระดับที่เหมาะสม จากการลดสัดส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อทุน ลงเหลือ 0.9 - 1.4 เท่า จากเดิมอยู่ที่ 3.19 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำกำไรในอนาคต
นางสาวบุษบา กล่าวว่า หลังการเพิ่มทุนเสร็จสิ้น บริษัทจะเดินหน้าตามแผนธุรกิจเต็มรูปแบบ โดยมุ่งเน้นธุรกิจหลัก ได้แก่ ธุรกิจดนตรี และธุรกิจดิจิตอลทีวี และหลังการปรับโครงสร้างทางธุรกิจเพย์ทีวีในไตรมาส 3 บริษัทจะมีกำไรสุทธิ เพิ่มขึ้นกว่าไตรมาสก่อนถึง 82% และเชื่อมั่นว่า แผนธุรกิจในระยะกลางและระยะยาว จะทยอยส่งผลให้กำไร ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ช่วง 2 ปีที่ผ่านมา แกรมมี่ประสบความสำเร็จในธุรกิจหลายๆ ด้าน ทั้งการขยายธุรกิจแพลตฟอร์มทีวีดาวเทียม , โฮมช็อปปิ้ง รวมทั้งการรุกเข้าสู่ธุรกิจทีวีดิจิตอล ซึ่งสะท้อนถึงยุทธศาสตร์การสร้างมูลค่าเพิ่มจากคอนเทนต์ และการต่อยอดพลิกฟื้นธุรกิจเพลงแบบครบวงจร