กาศกำลังซื้อผู้บริโภคที่ชะลอตัวมาตั้งแต่ปลายปี 2556 ทำให้เกิดคำถามว่า โครงการอีโคคาร์ เฟส 2 จะคึกคักหรือเงียบเหงา การเปิดสายการผลิตของมาสด้าเจ้าแรกปลายปีนี้ จะสะท้อนแนวโน้มตลาดอีโคคาร์ได้หรือไม่
มาสด้า เป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์ประหยัดพลังงานมาตรฐานสากล หรือ อีโคคาร์ ระยะที่ 2 และถือเป็นรายแรกที่เริ่มเดินสายการผลิต ในรุ่น Mazda 2 ซึ่งปรับปรุงเป็นเครื่องยนต์ดีเซล ใช้ไทยเป็นฐานการผลิตเพื่อส่งออกและขายในประเทศ ภายใต้งบประมาณ 9 พัน 7 ร้อยล้านบาท
ขณะนี้ มาสด้า ยังไม่เปิดเผยเป้าหมายยอดขายและยอดผลิตอีโคคาร์รุ่นนี้ แต่พร้อมเปิดตัวในงานมหกรรมยานยนต์ หรือ มอร์เตอร์ เอ็กซ์โปร์ ปลายปีนี้ ก่อนเริ่มจำหน่ายในต้นปีหน้า นอกจากนี้ ยังเพิ่มกำลังการผลิตรถยนต์นั่ง ที่โรงงานเอเอที จาก 5 หมื่นคัน เป็น 1 แสน 2 หมื่นคันต่อปี ภายในปี 2559
ผู้บริหารของมาสด้า เชื่อว่า กำลังซื้อของผู้บริโภคในไทยที่ชะลอตัว สะท้อนจากยอดขายปีนี้ลดลง แต่เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ถือว่าเติบโตมากกว่า จึงมั่นใจว่ากระแสอีโคคาร์ในปีหน้า ยังไม่ตก เพราะกำลังซื้อจะกลับมา
ตอนนี้ อาจมี "มาสด้า" รายเดียว ที่ชัดเจนเรื่องการผลิตอีโคคาร์ สะท้อนได้หรือไม่ว่า ปีหน้าตลาดรถอีโคคาร์จะเงียบเหงา เพราะยอดขายรถยนต์ในปีนี้ ก็ไม่ค่อยดีนัก จากความเชื่อมั่นผู้บริโภคขาลง
แต่ผู้ผลิตรถยนต์หลายค่าย ยังมองเห็นโอกาส และยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอ โดยมี 6 ราย ที่ได้รับอนุมัติให้ผลิตอีโคคาร์ เฟส 2 แล้ว คือ ฟอร์ด , นิสสัน , มิซซูบิชิ , เจเนอรัลมอร์เตอร์ , โฟคสวาเก้น และมาสด้า จากที่ยื่นขอสนับสนุนมา 10 ราย ซึ่งล้วนเป็นรายเดิมที่ผลิตอีโคคาร์ เฟสแรก ส่วนอีก 4 รายที่เหลือ คาดว่าจะอนุมัติได้ในปีหน้า
ฉะนั้น ปีหน้า ตลาดอีโคคาร์ ก็น่าจะยังแข่งขันกันอย่างรุนแรง หลังจากหลายค่ายประกาศความพร้อมอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะในรายที่ผ่านบีโอไอแล้ว เช่น มิตซูบิชิ ซึ่งเตรียมเงินลงทุนไว้กว่า 7 พัน 7 ร้อยล้านบาท กำลังการผลิต 2 แสน 2 หมื่นคัน รองรับการผลิตอีโคคาร์ ทั้งเฟส 1 และเฟส 2 รวมถึงค่าย โตโยต้า ที่เพิ่มกำลังการผลิตในเฟส 2 วงเงินลงทุนเพิ่ม 1 พัน 9 ร้อยล้านบาท กำลังการผลิต 1 แสน 6 หมื่นคัน
เชื่อว่า ในงานมอเตอร์ เอ็กโปร์ ปลายปีนี้ และมอร์เตอร์โชว์ ในต้นปีหน้า คงจะได้เห็นโฉมหน้าอีโคคาร์ เฟส 2 จากหลายค่ายออกมาประชันกันในตลาด