พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะผู้บัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ เปิดเผยว่า กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง ได้เตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยหนาว เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยหนาวให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากกรมอุตุนิยมวิทยา ได้ออกประกาศว่าประเทศไทยได้เริ่มเข้าสู่ฤดูหนาวตั้งแต่วันที่ 17 ตุลาคม 2562 และคาดหมายลักษณะอากาศช่วงฤดูหนาวของประเทศไทยจะมีอากาศหนาวจนถึงกลางเดือนกุมภาพันธ์ 2563 ซึ่งในช่วงครึ่งหลังของเดือนธันวาคม 2562 จะเป็นช่วงที่มีอากาศหนาวเย็นที่สุด ต่อเนื่องไปจนถึงปลายเดือนมกราคม 2563
ดังนั้นจึงได้สั่งการให้กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก รวม 55 จังหวัด โดยบูรณาการหน่วยงานในพื้นที่ ทำหน้าที่ติดตามสภาวะอากาศ และประชุมร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเตรียมความพร้อมในการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยหนาวในพื้นที่ รวมถึงสร้างการรับรู้ให้กับประชาชนโดยการประชาสัมพันธ์และให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพ พร้อมทั้งให้ประสานหน่วยงานสาธารณสุขเฝ้าระวังและเตรียมความพร้อมป้องกันโรคติดต่อในช่วงฤดูหนาว และกำหนดแนวทางในการให้ความช่วยเหลือและจัดเตรียมเครื่องกันหนาวแก่ ผู้สูงอายุ เด็กไร้ผู้อุปการะ คนพิการทุพพลภาพ สตรีมีครรภ์ และผู้มีรายได้น้อย
นอกจากนั้นได้สั่งการให้ทุกจังหวัดกำหนดมาตรการในการป้องกันการเกิดอัคคีภัย และรณรงค์ขอความร่วมมือเกษตรกรให้ใช้วิธีการไถกลบ แทนการเผาตอซังและวัสดุทางการเกษตร เพื่อลดมลพิษในอากาศและปัญหาหมอกควัน พร้อมทั้งเตรียมความพร้อมของเจ้าหน้าที่ รถยนต์ดับเพลิง รถบรรทุกน้ำ และอุปกรณ์ดับเพลิงให้มีความพร้อมปฏิบัติงานได้ทันที
สำหรับการเผชิญเหตุและการให้ความช่วยเหลือ เมื่อเกิดสถานการณ์ภัยหนาวขึ้นในพื้นที่ ได้สั่งการให้ทุกจังหวัดดำเนินการตามแผนเผชิญเหตุจังหวัด พร้อมทั้งบูรณาการประสานงานกับหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งหน่วยทหาร ภาคราชการ ภาคเอกชน องค์กรการกุศล มูลนิธิ และประชาชนจิตอาสา เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยหนาว และกำหนดมาตรการในการป้องกันและลดอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นแก่นักท่องเที่ยวที่เดินทางไปตามสถานที่ท่องเที่ยวที่มีอากาศหนาวเย็น เช่น ทัศนวิสัยจากหมอกหนา เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุจากการจราจร และอัคคีภัยในเต็นท์ที่พักของนักท่องเที่ยว เป็นต้น รวมถึงจัดเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครภาคประชาชนเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยว
พลเอกอนุพงษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ได้เน้นย้ำให้ทุกจังหวัดถือปฎิบัติตามระเบียบและหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัดในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยหนาว โดยคำนึงถึงความเดือดร้อนของประชาชนที่ขาดแคลนเครื่องกันหนาวเป็นสำคัญ และให้ทุกจังหวัดประสานงานกับส่วนราชการ ภาคเอกชน มูลนิธิ และองค์กรการกุศลในพื้นที่ และประชาชนจิตอาสา เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยหนาวไม่ซ้ำซ้อนกันและเป็นไปอย่างทั่วถึง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :