ไม่พบผลการค้นหา
จะเพื่อยินยอมหรือปฏิเสธเพศสัมพันธ์ ผลสำรวจชี้ว่า 'การพูดตรงๆ' เป็นสัญญาณที่ชัดเจนที่สุดแล้ว และแม้ verbal consent อาจทำลายบรรยากาศได้ แต่การหลีกเลี่ยงไม่สื่อสารอาจมีผลลัพธ์ที่เลวร้ายเช่นกัน

‘ความยินยอมพร้อมใจในการมีเพศสัมพันธ์’ (sexual consent) เป็นประเด็นที่ถูกหยิบขึ้นมาวิพากษ์-วิจาณ์ตลอดแทบตลอดเวลา บางครั้งก็กลายเป็นศูนย์กลางดราม่าของสังคม

ส่วนหนึ่งเป็นเพราะวัฒนธรรมที่สืบทอดกันมาไม่เปิดโอกาสให้พูดถึงประเด็นดังกล่าวโดยตรง เท่านั้นยังไม่พอ แม้แต่ตัวบุคคลที่กำลังจะมีเซ็กส์ก็ยังมีมุมมองที่แตกต่างกันในประเด็นดังกล่าว

เพื่อตอบความสงสัยของสังคมว่าแท้จริงแล้ว 'พฤติกรรม' ใด เป็นเครื่องสะท้อนการยินยอมพร้อมใจหรือไม่ยินยอมพร้อมใจในการมีเพศสัมพันธ์ Rocket Media Lab ทำแบบสอบถามในประเด็นดังกล่าวกับผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมด 1,052 คน (เลือกตอบบางข้อ) ระหว่างวันที่ 6 ก.พ.-16 มี.ค. 2564 


อนุญาต/ไม่อนุญาต

ผู้ตอบคำถามว่าสัญญาณใดถือเป็นการอนุญาตให้มีเพศสัมพันธ์ได้ชัดเจนที่สุด กว่า 80% จากทั้ง 1,045 คน ระบุไปในทิศทางเดียวกันว่า การเอ่ยปากพูดตรงๆ ถือเป็นสัญญาณที่ชัดเจนที่สุด 

ขณะที่คำตอบรองลงมาคือ การยอมให้จูบ/จูบตอบ ประมาณ 44.2% ของผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมด ตามมาด้วย การยอมให้ถอดเสื้อผ้า และการยอมให้มีการสอดใส่โดยไม่ส่งเสียงห้ามหรือขัดขืน ในสัดส่วน 37.2% เท่ากัน ส่วนสัญญาณความยินยอมการมีเซ็กส์อันดับที่ 5 คือการทำออรัลเซ็กส์ให้ 

เซ็กส์

ในทางตรงกันข้าม 89.9% ของผู้ตอบคำถามดังกล่าว จากทั้งหมด 1,042 คน ระบุว่า การปฏิเสธที่ชัดเจนที่สุดคือการออกปากพูดเช่นเดียวกัน พฤติกรรมแสดงออกถึงการไม่ยินยอมพร้อมใจในลำดับต่อมาได้แก่ 1.การผลักออก 2.การแสดงออกถึงความกลัว 3.การพูดบ่ายเบี่ยง 4.การแสดงอาการโกรธ และ 5.การร้องไห้ นอกจากนี้ ยังมีการไม่จูบตอบ และการนอนนิ่ง-หลับตา เช่นกัน 

จากสองคำถามเกี่ยวกับสัญญาณของการยินยอม-ไม่ยินยอม ผลสำรวจชี้ชัดว่าการสื่อสารด้วยการพูดคุย หรือ verbal consent มีความจำเป็นอย่างยิ่ง แม้จะเป็นคนที่คบกันอยู่ก็ตามและแม้จะมีสถานการณ์หลากหลายรูปแบบที่จะนำไปสู่การมีเซ็กส์


ความคิดเห็นต่อ verbal consent

ผลสำรวจจาก Rocket Media Lab ยังเปิดเผยความคิดเห็นของผู้ตอบแบบสอบถามส่วนหนึ่งในประเด็นว่า พวกเขารู้สึกอย่างไรเมื่อถูกขอมีเซ็กส์ด้วยอย่างตรงไปตรงมา 

  • "รู้สึกว่าถ้าเขากล้าขอ เขาคงมีวุฒิภาวะพอที่จะรับคำตอบของเรา ไม่ว่าเราจะยอมหรือไม่ยอม" — หญิง, 29
  • "ก็แฟร์ดี เป็นเรื่องปกติ ควร normalize sex with consent" — ชาย, 24
  • "อาจเป็นการดีที่ถามตรงๆ ถ้าเรามีสิทธิ์ปฏิเสธ แต่ถ้าเราไม่มีอำนาจจะปฏิเสธได้ก็ถือว่าการถามนี้เพื่อคุกคามหรือการสร้างความชอบธรรมให้เกิดกับตัวผู้ถามเท่านั้น" — ชาย, 50
  • "ถ้ามาแบบไม่มีบริบท จะรู้สึกว่าเป็นการคุกคาม หรือการลงรูปเซ็กซี่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะสามารถถามคำถามแบบนี้ด้วยได้ แต่ถ้าในความสัมพันธ์ การถามแบบนี้ก่อนเป็นสิ่งที่จำเป็น" — bi queer asexual, 30
  • "ก็รู้สึกอายค่ะ แต่ก็รู้สึกดีที่เขาบอกมาตรงๆ ไม่ใช่มาแบบอ้อมๆ เช่นมาดูเน็ตฟลิกซ์ที่ห้องเราไหม บ้าบอค่ะ" — หญิง, 19
  • "อึ้งนิดหน่อย แต่ดีค่ะ ก็จะได้ตอบตรงๆ เคลียร์ๆ บางคนก็ไม่ฉลาดพอจะคิดหรือสังเกตเห็นการปฏิเสธโดยการแสดงออกได้อย่างเดียว" — หญิง, 26 
  • "ถ้าเป็นคนไม่รู้จัก ก็คงรู้สึก insecure แต่ถ้ากับคู่รัก หรือคนที่เป็น friend with benefit หรือ คนที่มาเป็น one night stand คิดว่า ควรถามกันตรงๆ" — เกย์, 29
  • "ต้องดูบริบท บางกรณีอาจดูหยาบคาย / บางกรณีอาจดูเสร่อ/ บางกรณีอาจดูคุกคาม / บางกรณีอาจดู ..มึงไม่พิมพ์สัญญาแนบมาด้วยเลยล่ะ หืมมม / บางกรณีอาจโอเค ฯลฯ ทั้งหมดย่อมส่งผลให้เกิดอารมณ์ต่างกันไป การรับมือก็จะต่างกันไป อันที่จริงมนุษย์สามารถสื่อสารกันได้หลายทาง ไม่จำเป็นต้องเป็นคำพูดทั้งหมด เพียงแต่ทุกการกระทำควรตั้งอยู่บนฐานของการให้เกียรติมนุษย์อีกคน" — หญิง, 39  
เซ็กส์

ขณะที่หลายคนอาจยังเคยชินกับการปล่อยไปตามอารมณ์ หรืออาศัยภาษากาย แต่ที่สุดแล้วคงปฏิเสธไม่ได้ว่าการหลีกเลี่ยงที่จะสื่อสารเพื่อตกลงกันตรงๆ นั้นอาจนำไปสู่ปัญหาความเข้าใจที่ไม่ตรงกันได้ หรือในกรณีที่เลวร้ายกว่านั้น คือการต้องมีเซ็กส์แบบมีฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดมียินยอมพร้อมใจ