นายดนุพร ปุณณกันต์ สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า จากสถานการณ์น้ำหลากและน้ำท่วมหลายจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี รับทราบปัญหา ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้สอบถามและแสดงความเป็นห่วงไปยังนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดต่างๆ ในการติดตามสถานการณ์ฝนและน้ำหลาก เช่น สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ หรือ สทนช. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ติดตามและประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และเฝ้าระวังอ่างเก็บน้ำขนาดกลางและเล็ก รวมทั้งคาดการณ์พื้นที่เสี่ยงอุทกภัย ทุกหน่วยงานกำลังทำหน้าที่อย่างเต็มที่  

ขณะที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคเพื่อไทย ในพื้นที่ประสบภัยและใกล้เคียง เร่งให้ความช่วยเหลือประชาชนตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน เช่น นายณัฐพงษ์ สุปริยศิลป์ สส.น่าน พรรคเพื่อไทย ได้หารือในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรวันนี้ ถึงความเดือดร้อนพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดน่าน และหลายจังหวัดภาคเหนือว่า เนื่องด้วยสถานการณ์น้ำท่วม หลังเกิดฝนตกหนักติดต่อกันหลายวัน ทำให้น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมหลายอำเภอ ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย น่าน และพะเยา เช่น ในพื้นที่น่าน เกิดน้ำท่วม ดินสไลด์ในพื้นที่ 8 อำเภอ จาก 15 อำเภอ คืออำเภอ เฉลิมพระเกียรติ ทุ่งช้าง เชียงกลาง ปัว ท่าวังผา บ้านหลวง เวียงสา และนาน้อย เกิดน้ำหลาก เอ่อล้นตลิ่ง เข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน และพื้นที่การเกษตร สัตว์เลี้ยงทั้งหมู เป็ด ไก่ วัว และควาย ไหลไปตามกระแสน้ำ สร้างความเดือดร้อนและเสียหายแก่ทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน ขณะเดียวกันยังได้ส่งทีมลงพื้นที่บ้านส้อและบ้านหนองแดง ต.เปือ อ.เชียงกลาง ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่มอบน้ำดื่มพร้อมให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นและประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ 

รวมทั้งนางสาววิสารดี เตชะธีราวัฒน์ สส.เชียงราย พรรคเพื่อไทยได้ประสานขอความช่วยเหลือไปยัง ธนาคารเพื่อการเกษตรฯ ฝ่ายกิจการสาขาภาคเหนือตอนบน ( ฝตบ.) ช่วยเหลือผู้ประสบภัย นำสิ่งของอุปโภค บริโภค บรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้นให้กับประชาชน ต.ดอยลาน รวมถึง สส.ของพรรคเพื่อไทยทุกคนได้ติดตามสถานการณ์และประสานความช่วยเหลือในเบื้องต้นกับพื้นที่แล้ว 

“ข้อจำกัดทางกฎหมายรัฐธรรมนูญ ที่นายกรัฐมนตรี ยังไม่สามารถสั่งการคณะรัฐมนตรีรักษาการได้ เนื่องจากยังไม่ได้ถวายสัตย์ปฏิญาณต่อพระมหากษัตริย์ ตามมาตรา 161 และยังไม่ได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภา ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 162  แต่นายกรัฐมนตรีได้สอบถามติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่องกับผู้ที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด” นายดนุพร กล่าว