คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย เป็นประธานเปิดศูนย์ประสานงานพรรคเพื่อไทยเขต 8 ลาดพร้าววังทองหลาง ตั้งแต่ช่วงเช้า มีแกนนำพรรคเพื่อไทยอาทิ นายวัฒนา เมืองสุข, นางลดาวัลย์ วงศ์ศรีวงศ์ โฆษกพรรค, น.ส.ภูวนิดา คุณผลิน รวมถึงประชาชนในพื้นที่ร่วมแสดงความยินดี พร้อมจัดพิธีทางศาสนา เพื่อทำบุญในวันเปิดศูนย์ประสานงานด้วย
คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่ได้กลับมาเจอญาติผู้ใหญ่ มาให้กำลังใจ รวมถึงต้อนรับในงานเปิดศูนย์ประสานงานพรรคเพื่อไทยที่เขตลาดพร้าว เขตวังทองหลาง ซึ่งถือเป็นบ้านของคุณหญิงสุดารัตน์ พร้อมยืนยันว่าความสัมพันธ์ที่ดีกับคนในพื้นที่ไม่เคยเสื่อมคลาย และจากการพูดคุยกับประชาชนสะท้อนว่าเศรษฐกิจไม่ดี ค้าขายลำบาก ซึ่งเสียดายที่ไม่ได้เข้ามาดูแลทำงานให้กับประชาชน ตลอดเวลา 4-5 ปี ที่ผ่านมา
"การเลือกตั้งที่จะถึงนี้เป็นการตัดสินว่า จะอยู่ในสภาพแบบนี้ต่อไปหรือไม่ ทนกับสี่ปีแบบนี้หรือไม่ หรือหากทนไม่ได้ต้องไปเลือกให้เยอะ เลือกให้มากเอาชนะ 250 ส.ว. โดยในเขตลาดพร้าว วังทองหลาง กุญแจ สำคัญคือ ร.ท.หญิงสุณิสา ทิวากรดำรง หรือ หมวดเจี๊ยบ จึงขอให้มั่นใจการทำงานของพรรคเพื่อไทยว่าสามารถทำให้เศรษฐกิจดีได้ทุกครั้ง" คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว
หลังจากนั้นคุณหญิงสุดารัตน์ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ถึงประเด็นการเลื่อนเลือกตั้ง ย้ำว่า การเลื่อนเลือกตั้งไม่กระทบกับพรรคเพื่อไทย หรือการหาเสียง เพราะพรรคทำงานมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งหารทำพื้นที่, เตรียมนโยบายและยุทธศาสตร์ หากมีการเลือกตั้งพรรคพร้อมเสมอ
ขณะนี้อยู่ในช่วงแคมเปญแรก ที่ชี้ให้เห็นถึงปัญหาของประชาชนจากการบริหารงานที่ล้มเหลวมากกว่า 4-5 ปีผ่านมา และแคมเปญต่อไปจึงจะเปิดเผยแนวทางการแก้ปัญหาที่พรรคเตรียมไว้ให้กับประชาชน เช่น การนำเทคโนโลยีมาสร้างโอกาส และแก้ปัญหาหนี้สินด้วยการสร้างรายได้ ซึ่งคุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า ให้พรรคอื่นเปิดนโยบายไปก่อน พรรคเพื่อไทยไม่ได้แข่งนโยบายลด แลก แจก แถม กับใคร พร้อมกล่าวย้ำว่ารัฐบาลปัจจุบันมีปัญหาเรื่องวินัยการเงินการคลัง และสัญญาว่าการบริหารงานของพรรคเพื่อไทยจะใช้งบประมาณอย่างชาญฉลาดเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ไม่ผิดวินัยการเงินการคลังแน่นอน
ส่วนกระแสข่าวพรรคเพื่อไทยสนับสนุน นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ขึ้นเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี อันดับหนึ่งในบัญชีของพรรคเพื่อไทย คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า ตนเองเป็นคนเชิญให้นายชัชชาติ เข้ามาร่วมทีมเศรษฐกิจ เนื่องจากเป็นคนมีความสามารถ จึงให้รับผิดชอบด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ส่วนนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ดูเรื่องการยกระดับรายได้ และนายปลอดประสพ สุรัสวดี ดูแลเรื่องการเกษตร ซึ่งตอนนี้อยากให้มองภาพการทำงานเป็นทีม ส่วนจะปิดทางนายชัชชาติเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีเป็นไปไม่ได้ เพราะตนเป็นคนเชิญเข้ามาทำงาน ต้องให้เกียรติ และให้เขาทำงานในด้านที่ถนัด