เมื่อวันที่ 7 ก.ย. 2565 ที่สำนักการระบายน้ำ กรุงเทพมหานคร (กทม.) พวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานที่ปรึกษาประธานสภากรุงเทพมหานครด้านการเมือง และรองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย วราวุธ ยันต์เจริญ ที่ปรึกษาประธานสภากรุงเทพมหานคร ดนุพร ปุณณกันต์ คณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่กรุงเทพมหานคร พรรคเพื่อไทย วิรัตน์ มีนชัยนันท์ ประธานสภากรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) พรรคเพื่อไทยทั้ง 20 คน และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย ร่วมวิเคราะห์และหารือสถานการณ์น้ำกับสำนักการระบายน้ำกรุงเทพมหานคร เพื่อเตรียมตัว และหาทางรับมือจากสถานการณ์น้ำหากมีฝนตกต่อเนื่อง ร่วมกับวิษณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และ วิลาวัลย์ ธรรมชาติ ที่ปรึกษาผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร โดยมี อาสา สุขขัง ผู้อำนวยการกองสารสนเทศระบายน้ำ เป็นผู้ให้ข้อมูล
โดย อาสา ได้เผยกราฟฟิคภาพปริมาณน้ำฝนและระบบตรวจวัดระดับน้ำในแต่ละพื้นที่เพื่อเฝ้าสังเกตปริมาณน้ำฝน และได้แจ้งถึงจุดที่ กทม. ได้ลิงค์สัญญาณจากกล้องวงจรปิดของสำนักการจราจร และขนส่งกรุงเทพมหานครในจุดที่เสี่ยงน้ำท่วมในพื้นที่กรุงเทพฯ เพื่อมอนิเตอร์สถานการณ์น้ำท่วมตลอดเวลา นอกจากนี้ ทางสำนักฯยังระบุช่องทางการแจ้งขอความช่วยเหลือของประชาชนมายัง กทม. ไม่ว่าจะเป็นทางโอเพ่นแชตไลน์ "ฝนตก-น้ำท่วม บอกด้วย" ลิงค์ : https://line.me/ti/g2/kk0gLj9CMIhrNYYbCK11EZ_b2QyXZ2429q7BLg?utm_source=invitation&utm_medium=link_copy&utm_campaign=default
และโทรสายด่วน 02-248-5115 หรือการแจ้งผ่านแอปพลิเคชันทราฟฟี่ฟองดูว์ โดยทางสำนักฯ มีเจ้าหน้าที่สแตนบายเพื่อรับข้อมูลที่ประชาชนแจ้งเข้ามาตลอด 24 ชั่วโมง
ด้าน พวงเพ็ชร กล่าวว่า อยากฝากให้ กทม. 3 ประเด็นคือ. 1.ขอให้ลิงค์ภาพจากกล้องวงจรปิดของสำนักการจราจร และขนส่งกรุงเทพมหานครในทุกจุด ไม่ใช่เฉพาะบางจุดที่เสี่ยง เพื่อให้สามารถเห็นปัญหาในทุกจุดได้ 2.มีระบบเอไอเพื่อควบคุมปริมาณน้ำ และระบบการระบายน้ำ ให้สามารถดำเนินการได้ทันทวงทีจากทุกจุดพร้อมกันโดยไม่ต้องรอกำลังคนเพียงอย่างเดียว และ 3.การก่อสร้างถนนต่างระดับ และรถไฟฟ้าควรจะแยกท่อน้ำทิ้ง และบ่อพักออกจากกัน เพื่อให้การระบายน้ำบนถนนสามารถระบายได้รวดเร็วขึ้น
วิรัตน์ กล่าวว่า ปัจจุบันเรด้าของสำนักการระบายน้ำดีที่สุดในประเทศไทย สามารถแปลผลได้ภายในทุกๆ 5 นาที แต่อุปกรณ์ที่จะไปเชื่อมโยงเอาข้อมูลจากเรด้านี้มาใช้เพื่อช่วยระบายน้ำ และป้องกันน้ำท่วมยังไม่ครอบคลุม และยังขาดเซ็นเซอร์บริเวณประตูระบายน้ำทั้ง 200 กว่าจุด และที่คลองต่างๆ เพื่อควบคุมการระบาย และควบคุมปริมาณน้ำ ดังนั้น เราควรมีระบบอัตโนมัติเพื่อควบคุมระดับน้ำ และปริมาณน้ำในเบื้องต้นเสริมการทำงานของ กทม. ทั้งนี้ เราจะเสนอให้ผู้บริหารกรุงเทพมหานครจัดสรรงบประมาณมาดำเนินการตรงจุดนี้ เพื่อให้การบริหารจัดการน้ำสมบูรณ์ และเป็นระบบยิ่งขึ้น ทั้งยังป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับประชาชนได้อย่างทันท่วงที