นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน สมาชิกกลุ่มก้าวต่อไปเพื่อประชาธิปไตย กล่าวว่า จากปัญหาความบกพร่องในการจัดการเลือกตั้งล่วงหน้าของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่เป็นไปอย่างน่าอับอาย ทั้งการขโมยบัตรเลือกตั้งทั้งเล่มไปกาเอง การลงคะแนนบัตรผิดเขต ข่าวลือการขนทหารไปลงคะแนนโดยไม่สมัครใจ รูปการมีบัตรเลือกตั้งเรียงเรียบร้อยในหีบบัตรอยู่แล้ว การเปิดหีบบัตรและแยกบัตร ขั้นตอนการขนและเก็บบัตร ฯลฯ
โดยหลายปัญหาเกิดจากการเขียนรัฐธรรมนูญที่ตั้งใจให้เกิดความสับสน เช่น แทนที่จะให้พรรคการเมืองใช้เบอร์เดียวทุกเขตกลับแยกคนละเบอร์ในแต่ละเขต เป็นต้น ซึ่งเปิดโอกาสให้มีการทุจริตได้ในทุกขั้นตอน ทำให้เกิดความไม่มั่นใจในวงกว้างว่าการเลือกตั้งล่วงหน้าครั้งนี้ ตลอดไปถึงการเลือกตั้งจริงในวันที่ 24 มีนาคมจะเป็นไปอย่างสุจริต
นายพิชัย กล่าวว่า หากมีปัญหาความไม่โปร่งใสในการเลือกตั้งหรือมีการโกงการเลือกตั้ง ความเชื่อมั่นของประเทศไทยที่ตกต่ำอยู่แล้วจะยิ่งตกต่ำจนหมดไม่เหลือ และเศรษฐกิจจะยิ่งย่ำแย่ลงอีก ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยถอยหลังไปอีกนาน หลังจากถอยหลังมาแล้ว 5 ปี ตรงข้ามกับความเข้าใจของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ ที่เข้าใจผิดหรือตั้งใจไม่เข้าใจ คิดว่าเศรษฐกิจไทยมั่นคงและไปด้วยดี ทั้งๆที่ประชาชนเดือดร้อนกันอย่างมาก จำนวนคนจนกลับเพิ่มมากขึ้นเป็น กว่า 14 ล้านคน ไม่ได้หมดไปในสิ้นปี 2561 ตามที่นายสมคิดประกาศไว้
ทั้งนี้ การที่ประชาชนจำนวนมากออกมาลงคะแนนเสียงล่วงหน้าและคาดว่าน่าจะออกมาลงคะแนนเสียงในวันเลือกตั้งจริงกันมาก แสดงให้เห็นว่าประชาชนอึดอัดและลำบากกันมากจึงไม่ต้องการจะทนอยู่ในสภาวะเช่นนี้อีกต่อไป และต้องการใช้สิทธิออกเสียงในการเปลี่ยนแปลงประเทศนี้ ไม่อยากให้มีการสืบทอดอำนาจของเผด็จการ เพราะรู้ดีว่าจะยิ่งทำให้ประเทศทรุดหนัก เพราะหากประชาชนมีความสุขคงไม่กดดันให้มีการเลือกตั้งกัน ซึ่งหากผลการเลือกตั้งออกมาตรงกันข้ามกับความรู้สึกของประชาชน ประชาชนจะรับไม่ได้และอาจจะเกิดความวุ่นวายได้
"อยากขอเตือนรัฐบาล และ คสช. ตลอดจน คณะกรรมการการเลือกตั้ง ให้จัดการเลือกตั้งให้ เสรี บริสุทธิ์และโปร่งใส และสะท้อนความต้องการแท้จริงของประชาชนตามระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขอย่างแท้จริง ประเทศไทยจะได้เดินหน้าต่อไปได้" นายพิชัย กล่าว
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :