อินเดียพยายามที่จะชุบชีวิตเสือชีตาห์ในประเทศขึ้นมาอีกครั้งในรอบเวลาหลายทศวรรษ โดยในปีที่แล้วอินเดียได้นำเข้าเสือชีตาห์ 8 ตัวมาจากนามิเบีย เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของแผนในการชุบชีวิตเสือชีตาห์ในอินเดียอีกครั้ง นอกจากนี้ ยังมีเสือชีตาห์อีก 12 ตัว ที่ถูกนำเข้ามายังอินเดียจากแอฟริกาใต้เมื่อเดือนที่แล้ว ทั้งนี้ ลูกเสือชีตาห์ทั้ง 4 ตัวเกิดในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุทยานแห่งชาติคูโน จากแม่เสือชีตาห์ที่มาจากนามิเบียเมื่อเดือน ก.ย.ปีที่แล้ว
ภูเพนเดอร์ ยาดาฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสิ่งแวดล้อมอินเดียระบุบนทวิตเตอร์ว่า “ผมขอแสดงความยินดีกับทีมงานทั้งหมดของโครงการชีตาห์ สำหรับความพยายามอย่างไม่ลดละในการนำเสือชีตาร์กลับมายังอินเดีย และสำหรับความพยายามของพวกเขา ในการแก้ไขข้อผิดพลาดทางระบบนิเวศน์ในอดีต” ยาดาฟกล่าว ในขณะที่ นเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีอินเดีย ระบุว่าเขายินดีกับ "ข่าวมหัศจรรย์" ในครั้งนี้
ลูกเสือชีตาห์เหล่านี้เกิดเมื่อ 6 วันก่อน แต่เจ้าหน้าที่เพิ่งพบเห็นพวกมันเมื่อวันพุธที่ผ่านมา (29 มี.ค.) ทั้งนี้ สำนักข่าว Press Trust of India รายงานว่า เจ้าหน้าที่อุทยานบอกกับสำนักข่าวว่า แม่เสือชีตาห์ที่ชื่อว่า สียายา และลูกๆ ของเธอสบายดี และมีสุขภาพแข็งแรง
อย่างไรก็ดี การประกาศการเกิดของลูกเสือชีตาห์ใหม่ มีขึ้นเพียง 2 วันหลังจากเสือชีตาห์จากนามิเบีย 1 ใน 8 ตัวตายลงในอุทยานแห่งชาติคูโน เนื่องจากอาการไตวาย ทั้งนี้ การที่พวกมันถูกส่งไปยังอินเดียเมื่อปีที่แล้ว นับเป็นครั้งแรกที่สัตว์กินเนื้อขนาดใหญ่ ถูกย้ายจากทวีปหนึ่งไปยังอีกทวีปหนึ่ง และกลับมาคืนสู่ธรรมชาติอีกครั้ง
เสือชีตาห์เป็นสัตว์บกที่วิ่งเร็วที่สุดในโลก ด้วยความเร็ว 112 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อย่างไรก็ดี เสือชีตาห์สูญพันธุ์อย่างเป็นทางการในอินเดียเมื่อปี 2495 หลังจากจำนวนประชากรที่ลดน้อยลงเนื่องจากการล่าของมนุษย์ การสูญเสียที่อยู่อาศัย และไม่มีเหยื่อเพียงพอให้กิน โดยปัจจุบัน เสือชีตาห์ส่วนใหญ่ในจำนวน 7,000 ตัวอาศัยในแอฟริกา เช่น แอฟริกาใต้ นามิเบีย และบอตสวานา
เสือชีตาร์เอเชียกำลังใกล้สูญพันธุ์อย่างรุนแรง และในตอนนี้พวกมันถูกพบได้เฉพาะในอิหร่านเท่านั้น โดยมีการคาดว่ามีเสือชีตาร์เอเชียเหลืออยู่ประมาณ 50 ตัว ทั้งนี้ เสือชีตาห์ได้รับการขึ้นทะเบียนสัตว์เสี่ยงสูญพันธุ์ระดับโลกในขั้น "เปราะบาง" ในบัญชีแดงไอยูซีเอ็น (IUCN Red List)
ที่มา: