นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสัมนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า สมเด็จพระสังฆราชได้พระราชทานเงินเบื้องต้นจำนวน 2 ล้านบาท เพื่อจัดซื้อหน้ากากอนามัยแจกจ่ายให้กับพระสงฆ์ยังวัดต่างๆ เนื่องจากสำนักพุทธไม่มีงบประมาณในส่วนนี้ พร้อมติดต่อไปยังกระทรวงพาณิชย์และกรมการค้าภายในเพื่อจัดหาสินค้า โดยเฉพาะวัดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว และหากเหลือจะดำเนินแจกจ่ายให้กับนักท่องเที่ยวและประชาชนด้วย แต่เนื่องจากสินค้ามีปริมาณความต้องการมากจึงยังไม่สามารถจัดหาให้ครบถ้วน ซึ่งพระสงฆ์ถือเป็นกลุ่มเสี่ยงเนื่องจากต้องไปรับกิจนิมนต์ทั่วไป พร้อมยอมรับว่าจำนวนพระที่อยู่ในประเทศขณะนี้มีมากกว่า 3 แสนรูป จึงจำเป็นต้องเลือกมาส่งที่อยู่ในวัดกลุ่มเสี่ยงและมีนักท่องเที่ยวเข้าออกเป็นจำนวนมาก แต่คาดว่า จำนวนเงิน 2 ล้านจะจัดหาได้ประมาณ 8 แสนชิ้น
"มีแนวคิดหากมองว่าวัดใดมีศักยภาพในการผลิตหน้ากากอนามัยทางเลือกได้เองก็จะดำเนินการจัดหาผ้าเพื่อให้ตัดเย็บได้เอง และคาดการณ์ว่าจะเชิญสำนักพุทธเข้ามาหารือใน 1-2 วันนี้" นายเทวัญ กล่าว
นายเทวัญ ยังระบุถึง การจัดตั้งศูนย์ข้อมูลโควิด-19 ทำเนียบรัฐบาล ว่า มีมติ ครม.ออกมาเมื่อวาน (3 มี.ค.) ซึ่งในวันนี้ (4 มี.ค.) จะดำเนินการหาข้อสรุปไม่ได้ว่าจะมีแนวทางอย่างไร อาจจะเป็นศูนย์ที่ให้ข้อมูลเพิ่มเติมหรือรับเรื่องราวร้องทุกข์ รวมถึง ประสานงานแต่ละกระทรวง แตกต่างจากศูนย์ของกระทรวงสาธารณสุขที่รายงานทางการแพทย์ ขณะเดียวกัน เตรียมเรียกส่วนที่เกี่ยวข้องหารือว่าจะสามารถใช้งบประมาณของกองทุนผู้ประสบสาธารณภัยได้หรือไม่ หากใช้ได้จะนำมาจัดซื้อหน้ากากอนามัย เช่นเดียวกับจะครอบคลุมถึงการดูแลกรณีสินค้าหน้ากากอนามัยไม่ได้มาตรฐานโดยจะมีการหารือ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคหรือ สคบ.ในเรื่องนี้โดยเร็ว
ส่วนเงินกองทุนป้องกันโควิด -19 ที่จะหักเงินเดือนของรัฐมนตรี เพื่อสมทบทุนนั้น นายเทวัญ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีการคุยในรายละเอียด เป็นการพูดเปรยของนายกรัฐมนตรีในที่ประชุม ครม.เมื่อวานเพื่อให้รัฐมนตรีแต่ละคน มีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาตามกำลังศรัทธา แต่ในเบื้องต้นคาดว่าจะบริจาค 1 เดือนก่อน เพราะส่วนตัวนายกรัฐมนตรีจะบริจาค 1 เดือน โดยในเวลา 14.00น. ของวันนี้ (4 มี.ค.) จะเป็นตัวแทนประชาชน รับมอบหน้ากากอนามัยจากบริษัทเอกชนเอกชนกว่า 2,000 ชิ้น เพื่อนำไปแจกจ่ายให้ประชาชนอีกด้วย