ไม่พบผลการค้นหา
‘ชาญวิทย์’ โพสต์จดหมายเปิดผนึกถึง ‘ส.ว.เนาวรัตน์’ วอน ส.ว.ใช้เวลาช่วงท้ายของชีวิตเคารพมติประชนชนจากการเลือกตั้ง โหวตหนุน ‘พิธา’ เป็นนายกฯ คนที่ 30 ทิ้งความทรงจำที่ดีให้ลูกหลาน

วันที่ 7 ก.ค. 2566 ชาญวิทย์ เกษตรศิริ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์เฟซบุ๊กจดหมายเปิดผนึกเรื่อง “และแล้วความเคลื่อนไหวก็ปรากฏ” ถึงอเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) โดยระบุว่า 1.ในฐานะมิตรเก่าแห่งสำนักท่าพระจันทร์ และลานโพธิ์ ตนขอส่งความปรารถนาดีมายังท่านกวีศรีกรุงเทพฯ และท่านสมาชิกวุฒิสภาทั้งหลายทั้งปวง เนื่องในโอกาสมงคลที่บ้านเมืองของเรา น่าจะเข้าสู่สถานการณ์ “ปกติ” ภายหลังการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ 14 พ.ค. 2566 ที่ผ่านมา และผลของการเลือกตั้ง ก็ได้ประจักษ์ให้เห็นไว้ชัดแล้ว และต่อจากนั้นกระบวนการที่ตามมาคือ การเลือกสรรประธานรัฐสภา และนายกรัฐมนตรี ตามลำดับ 

2.ในฐานะที่ท่านและบุคคลสำคัญหลาย ๆ ท่าน ที่ดำรงตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภา ที่มีสิทธิและหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ ที่จะต้องออกเสียงรับรองผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในการประชุมในวันที่ 13 ก.ค.ศกนี้นั้น ตนใคร่ขอเรียนมาให้ท่านได้ใช้ความสามารถ วิจารณญาณ ในการปฏิบัติงานเพื่อชาติและราษฎรไทย โดยคำนึงถึงทั้งมติและผลประโยชน์ของมหาชนประชาราษฎรไทยเป็นที่ตั้ง เคารพและปฏิบัติตามขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงามของประเทศชาติของเรา

3.กล่าวโดยย่อและตรงไปตรงมา คือ “ความเคลื่อนไหวก็ปรากฏ” ให้เห็นได้ชัดเจนแล้วว่า พรรคก้าวไกล ได้ชัยชนะมาเป็นพรรคอันดับหนึ่ง และพรรคเพื่อไทยเป็นพรรคอันดับสอง ดังนั้น ถ้าท่านวุฒิสมาชิกผู้ทรงเกียรติเคารพต่อมติของมวลมหาประชาชน และขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงามของชาติ ก็เป็นการสมควรที่ท่านและเพื่อนสมาชิกของท่าน จะพึงออกเสียงสนับสนุน พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของชาติไทย

4.ในฐานะของผู้สูงวัย อายุของเราไล่เลี่ยกัน ปีนี้ตนอายุ 82 เข้าแล้ว น่าจะเกือบเป็นวาระท้าย ๆ ที่คนรุ่นเรา จะมีเวลา มีชีวิตเหลืออยู่บนโลกนี้เพียงน้อยนิด ที่จะได้ปฏิบัติงานครั้งสำคัญครั้งนี้เพื่อ “ลูกหลานเหลนโหลนภายหน้า จะได้มีพสุธาอาศัย อนาคตจะต้องมีประเทศไทย มิยอมให้ผู้ใดมาทำลาย”

“ขอให้ทิ้งความทรงจำอันดีไว้ให้ลูกหลานเหลนโหลนของเรา (ตำแหน่งอยู่ไม่นาน ตำนานอยู่ตลอดไป) ครับจึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณาด้วย จักเป็นพระคุณยิ่งชีวิตร่างกาย เราไม่เสียดาย ตายแล้วก็เผาทุกสิ่งยอมคลาด เว้นแต่ชาติของเรา อย่าให้ใครเข้า เหยียบย่ำทำลาย” ชาญวิทย์ ระบุ