ไม่พบผลการค้นหา
'ปุ้ย' ปิยาภรณ์ แสนโกศิก และ 'ณะ' ณรงค์ชัย เลิศกิตศิริ ผู้ถือลิขสิทธิ์การจัดประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2020 แถลงตัดสิทธิการประกวด 'เฌอเอม' ชญาธนุส ศรทัตต์ เนื่องจากทำผิดข้อตกลงที่ได้เซ็นสัญญาไว้ ด้านเฌอเอมน้อมรับการพิจารณาของกองประกวด

ในที่สุดกองประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2020 ก็ตัดสินใจแถลงตัดสิทธิการประกวดของ เฌอเอม-ชญาธนุส ศรทัตต์ ผู้เข้าประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2020 หนึ่งในตัวเต็งของการประกวด จากสาเหตุที่เธอผิดข้อตกลงที่เซ็นสัญญาไว้ จากรณีที่มีผู้จัดการของผู้เข้าประกวด มิสยูนิเวิร์ส ไทยแลนด์ 2020 ที่ผ่านเข้ารอบ 30 คนสุดท้าย เข้ามาเป็นทีมงานประชาสัมพันธ์ เป็นการกระทำที่ผิดจรรยาบรรณ เป็นความไม่ยุติธรรมกับผู้เข้าประกวดอีก 29 คน 

โดยวันที่ 30 ก.ย. 2563 ปุ้ย ปิยาภรณ์ แสนโกศิก และ ณะ ณรงค์ชัย เลิศกิตศิริ ผู้ถือลิขสิทธิ์การจัดประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2020 และ อั้ม-จรีลักษณ์ จันทร์สุวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สตาร์ดอม เอเชีย จำกัด และ บริษัท Dr.Rebron Laboratory จำกัด ผู้สนับสนุนกองประกวดมิสยูนิเวิร์ส ไทยแลนด์ 2020 แถลงกรณีดังกล่าวถึงความสัมพันธ์ระหว่าง เฌอเอม ชญาธนุส และเคน สิทธิชัย

ปุ้ย ปิยาภรณ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องความผิดกฎ ไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตาย แต่ต้องทำความเข้าใจกัน โดยวันนี้ได้เชิญทั้งเฌอเอมและเคนมาด้วย ซึ่งส่งไปทุกช่องทาง แต่อีกฝ่ายอาจติดภารกิจ โดยเรื่องนี้ต้องคุยทำความเข้าใจกัน เพื่อมูฟออนและเดินหน้าต่อไปในรอบสุดท้ายของการประกวด แต่พอมีเหตุการณ์เกิดขึ้น จึงต้องมาพูดคุย

“กฎการประกวดมีความเข้มข้นมาก เป็นมาตรการเดียวกันทั่วโลก โดยเฉพาะการเลือกทีมงานของการประกวด คนที่จะอยู่ในการประกวดต้องไม่มีอคติ รัก ชอบเกลียดชังผู้ประกวดคนใดคนหนึ่ง ที่สำคัญต้องเก็บความลับ เพื่อหาคนที่มีความพร้อมในการเข้าประกวดมิสยูนิเวิร์สในช่วงต้นปี 2564 ซึ่งผู้ประกวดจะไม่แปลกใจในการตรวจสอบและสอดส่อง เพื่อต้องการตัวแทน 1 เดียวในการรวบรวมทุกจุด เพื่อไปคว้ามงที่ 3 มาให้ประเทศให้ได้”

“ผู้เข้าประกวดทุกคนมีความพิเศษและมีความฉลาด รวมถึงความงามในฐานะหญิงไทย โดยให้ทุกคนทุ่มเทและรักษากฎของกองประกวด ส่วนน้องเฌอเอมถือเป็นหนึ่งในความภูมิใจ แต่ตอนนี้ยังย้ำคำเดิม เรามีกฎชัดเจน สาวงามทุกคนกำลังเข้าสู่เวทีระดับโลก และต้องมีความพร้อมทุกมุม แต่เราไม่สามารถผ่อนปรนให้ใครบางคนได้ รวมถึงเรื่องของความเสมอภาค ความยุติธรรมและความเท่าเทียมกัน ตอนนี้ไม่รู้เฌอเอมจะรู้สึกอย่างไร แต่เรารับได้กับความรู้สึกที่ต้องเจอ”

“วันนี้ขอย้ำว่าเป้าหมายเรา ต้องการคว้ามงที่ 3 และขอจบดรามานี้ ถ้าจะงัดหลักฐานมามากมาย ใครข้องใจมาขอดูได้ ทุกอย่างเราไม่ได้พูดไปเอง เราไม่ได้แกงไปเอง เพราะแกงไม่ได้ วันที่น้องเฌอเอมมาสมัครมีหลักฐานชัดเจน โดยเฉพาะในหน้าที่ระบุถึงพี่เลี้ยง ซึ่งได้ใส่ชื่อของคนที่เป็นเลขานุการอีกคน หลังจากสมัครน้องก็ทำถูกต้อง พอมาถึงวันปฐมนิเทศน์และเซ็นสัญญา 30 คน เพราะทุกคนคือคนสำคัญที่ต้องเรียนรู้ พร้อมจับตามอง 24 ช.ม. ทั้งเบื้องลึกเลื้องหลัง ซึ่งเฌอเอมก็เซ็นสัญญารับกฎข้อนี้ด้วย แต่สาระสำคัญอยู่ที่ข้อ 5.29 กองประกวดขอห้ามผู้ประกวดนำพี่เลี้ยงจากภายนอกเข้ามาร่วม ผู้ปกครองสามารถนำของใช้มามอบให้ในพื้นที่ที่กำหนดเท่านั้น หากมีกรณีฉุกเฉินให้ติดต่อเจ้าหน้าที่ 1 คนเท่านั้น หากละเมิดจะส่งผลในการตัดสิทธิ์ทันที เรื่องนี้คือ 1 ในสัญญาที่เฌอเอมและสาวงามได้รับรู้”

ประเด็นเรื่องที่เฌอเอมบอก พูดไม่ตรงกัน ปุ้ย ปิยาภรณ์ กล่าวว่า สำหรับที่น้องพูดถึง 4 นิยามก็มีสิทธิ์ที่จะพูด แต่ความคิดและที่ได้เห็น ทั้งพยานบุคคลและหลักฐาน ไม่ใช่แค่บอกว่าเพิ่งรู้จักกัน 2 ปี และไม่ได้คุยกันมากมาย อาจไม่ใช่แค่โบรกเกอร์และคนหางานให้ โดยเรามีหลักฐานหากต้องขึ้นศาล

กองประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์

ส่วนการเข้ามาร่วมงานของ เคน สิทธิชัย ระบุว่าเข้าร่วมเฉพาะการขายงานเท่านั้น ปุ้ย ปิยาภรณ์ กล่าวว่า ได้จ้างบริษัทมาดูแลสปอนเซอร์ ทุกครั้งที่ประชุมตั้งแต่เดือน ก.พ.และติดช่วงโควิด จนนัดประชุมใหม่ โดยเห็นทุกครั้งว่าเคนเข้าประชุม แต่ที่เคนบอกว่าเข้าประชุมไม่เกิน 5 ครั้งคงไม่ใช่ เพราะเรามีหลักฐานและข้อมูลที่เปิดเผยไม่ได้ โดยเป็นข้อมูลจากกล้องวงจรปิด ส่วนที่อ้างว่าเข้าประชุมแค่งานดูแลสปอนเซอร์เท่านั้น ความจริงในการประชุมจะมีรายละเอียดของการประชุมทั้งหมด ซึ่งสปอนเซอร์จะต้องรู้เรื่องนี้ เป็นไปไม่ได้ที่จะรู้แค่งานขายเท่านั้น โดยได้เข้าร่วมประชุมเกิน 5 ครั้งแน่นอน

“ตอนที่เฌอเอมแถลงบอกมาพบกับเรานั้น น้องบอกว่าเหนื่อยและมีปัญหาสุขภาพ โดยเฌอเอมก็ส่งไลน์มาหา และจะพาผู้จัดการส่วนตัวมาด้วย ซึ่งเป็นพี่เลี้ยงดูแลมา 2 ปีแล้ว โดยเฌอเอมพูดคำนั้น แต่เป็นคนละคนกับตอนแรกที่สัมภาษณ์ โดยทันทีที่เฌอเอมเข้าพร้อมเคน ทำให้งงมาก พร้อมแนะนำเป็นผู้จัดการ ตอนนั้นช็อกมากและชาไปทั้งตัว โดยเคนได้ยกมือไหว้ตลอดและคุกเข่าขอโทษ ซึ่งเคนบอกอยู่กับทีมเดียวกับที่ดูแลเฌอเอม โดยเฌอเอมก็นั่งยิ้มอย่างเดียว และมาปรึกษาเรื่องสุขภาพไม่ดี เพราะหากร้อนหรือหนาวมากๆ จะไม่สบาย ก่อนเฌอเอมบอกว่าจะไปต่อและจะประกวดจนถึงวันสุดท้าย แต่สุขภาพไม่ไหว ดังนั้นบางกิจกรรมไม่ขอเข้าร่วม พร้อมขอขึ้นเดินประกวดในการเดินรอบสุดท้าย แต่เรากลัวมีปัญหาตามมาในอีก 29 คน เพราะถือเป็นควาไม่เสมอภาค”

“เนื่องจากวันไปเก็บตัวที่หัวหิน มีนักข่าวมาทักทายเรา และบอกว่าทำไมกองประกวดดันแต่เฌอเอม จึงบอกไปว่าดันทุกคน นักข่าวจึงถามว่าเห็นพี่เลี้ยงดันน้องเฌอเอมตลอด บวกกับทีมงานมาบอกข้อสงสัย ทำให้เริ่มเอะใจ และบอกกับทีมงานว่าอย่าทำอะไรที่ไม่ดี ”

การที่เฌอเอมนำเคนมาเป็นพี่เลี้ยงระหว่างมีส่วนร่วมกับการประกวด โดยไม่ได้เป็นพี่เลี้ยงในการประกวด ดังนั้นจึงผิดสัญญาของกองประกวด ทำให้เกิดข้อได้เปรียบกว่าผู้ประกวดคนอื่น ส่วนเคนเคยเป็นผู้จัดการหางานให้เฌอเอม และเข้าร่วมกับกองประกวด ทำให้รู้รายละเอียดและคุณสมบัติของผู้เข้าร่วม 5 คนสุดท้าย พร้อมให้สปอนเซอร์ดูแลมากว่าคนอื่น และพานักข่าวมาสัมภาษณ์มากกว่าคนอื่น โดยยังพบด้วยว่าเคนไม่เซ็นสัญญากับกองประกวด ซึ่งทีมงานก็ตามตลอด แต่เคนก็ยังไม่เซ็นสัญญา โดยตอนนั้นก็ไม่ได้คิดอะไร ทำให้หลุดไป และความจริงมาปรากฏ

ดังนั้นกองประกวดขอตัดสิทธิ์เฌอเอม ชญาธนุส จากการประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ในรอบ 30 คนสุดท้าย เนื่องจากทำผิดข้อตกลงที่ได้เซ็นสัญญาไว้ เพราะนำเคนที่เป็นพี่เลี้ยงส่วนตัวภายนอกเข้ามา การกระทำจึงเป็นการทำผิดข้อตกลง อาจทำให้เกิดความได้เปรียบผู้ประกวดคนอื่น โดยได้ส่งเอกสารไปให้เฌอเอมแล้ว

จดหมยตัดสิทธิการประกวด เฌอเอม

ด้าน เฌอเอม-ชญาธนุส ศรทัตต์ ได้ไปร่วมรายการ คุยแซ่บ SHOW เปิดใจหลังถูกตัดสิทธิว่า น้อมรับการพิจารณาของกองประกวด

"ขอน้อมรับการพิจารณาของกองประกวด จริงๆรู้อยู่แล้วว่าอาจจะเกิดขึ้น แต่พอมันเกิดขึ้นจริงๆ ก็เสียดายค่ะ เพราะเรารู้สึกว่า เรายังทำอะไรสักอย่างไม่เสร็จ แต่ว่าเหมือนเราถูกทำให้ยุติก่อนที่เราจะรู้ว่าผลลัพธ์มันจะเป็นยังไง เราจะทำให้ดีที่สุดไหม ก็เลยมีความรู้สึกเสียดายที่เราอาจจะกังขากับความสามารถของตัวเองในอนาคต"

"เอมเสียใจที่สุดที่เรื่องมันเลยเถิดมาเป็นแบบนี้ เพราะว่ามันเกิดจากความเข้าใจผิดเล็กน้อยจริงๆ แล้วเอมก็คิดอยู่เสมอว่า ถ้าเราสื่อสารกันดีกว่านี้ ถ้าไม่มีการโพสต์เกิดขึ้น ตอนนี้เรายังจะทำกิจกรรมอยู่ไหม หรือว่าเราจะเป็นยังไง"
เฌอเอม.jpg

ส่วนกรณีแชตหลุด เคน-สิทธิชัย เร็ววิโรจน์ ยืนยันว่าเนื้อหาในแชตเป็นการคุยทั่วไป ไม่ได้เป็นความลับของกองประกวด โดยประเด็นการตอบคำถาม 30 วิ เป็นการกระบวนการตอบคำถามที่มีแบบนี้ทุกปี

โดย 'เฌอเอม' ยังกล่าวที่เส้นทางในอนาคตว่า คงพักก่อนเพื่อเคลียร์หลายๆ อย่างให้จบ โดยเฉพาะข้อกล่าวหาที่คนคิดว่าเราเป็น บางทีต้องใช้เวลาเพราะว่าเรื่องยังสดใหม่ ยังร้อนแรง มันอาจจะมีหลายอย่างที่ดูย้อนแย้งหรือไม่ลงล็อก หรือความรู้สือในใจของผู้ดู

"อยากจะบอกว่า เอมก็ตั้งใจใช้ชีวิตต่อไปปกติ สุจริต ที่สำคัญก็คือไม่ว่าเอมจะอยู่ในวงการหรือในตำแหน่ง หรืออะไรต่อหรือไม่ เอมอยากจะขอบคุณเวทีที่ให้โอกาสช่วงเวลานี้ได้เป็นช่วงเวลาดีๆ ในชีวิตเอม หลังจากนี้ถ้าพบเจอเอมข้างนอก ไม่ว่าเอมทำอะไรอยู่ ก็อยากให้ลบภาพเฌอเอมทั่วไป ไม่ใช่เพราะว่าเราไม่อยากคิดถึงเรื่องตอนนี้ แต่เพราะว่าเราอยากให้คนจำแค่สิ่งที่เราทำให้สังคมจริงๆ"

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :