วันนี้ (31 สิงหาคม 2567) เวลา 10.50 น. ณ ห้องประชุมศรีนคร ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดสุโขทัย ตำบลธานี อำเภอเมืองสุโขทัย จังหวัดสุโขทัย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี และคณะ ประกอบด้วย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประชุมหน่วยบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ รับฟังสรุปสถานการณ์น้ำ และแผนการเร่งระบายน้ำท่วมขังในพื้นที่ภาคเหนือตอนบนและแผนการเตรียมความพร้อมรับมือฝนในช่วงถัดไปจากกรมชลประทาน สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และหน่วยงานในพื้นที่
สถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่จังหวัดสุโขทัย ณ วันที่ 30 สิงหาคม 2567 ยังมี
- พื้นที่ได้รับผลกระทบ 7 อำเภอ 42 ตำบล 168 หมู่บ้าน (เมืองสุโขทัย กงไกรลาศ ศรีสัชนาลัย ศรีสำโรง สวรรคโลก ศรีนคร คีรีมาศ)
- เกษตรกรประสบภัย 10,016 ครัวเรือน
- พื้นที่ประสบภัย 65,409 ไร่ พื้นที่คาดว่าจะเสียหาย 43,747 ไร่
- ข้าว 37,606 ไร่
- พืชไร่และพืชผัก 2,285 ไร่
- ไม้ผล ไม้ยืนต้นและอื่น ๆ 3,856 ไร่
ภายหลังการบรรยายสรุปฯ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การเดินทางมาจังหวัดสุโขทัยวันนี้ เพื่อติดตามสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้น เมื่อเห็นปริมาณน้ำก็รู้สึกเป็นห่วง เพราะพื้นที่สุโขทัยเป็นพื้นที่ราบแบน ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่รับน้ำจากที่ต่าง ๆ ขณะที่แม่น้ำปิง แม่น้ำวัง แม่น้ำน่าน ยังสามารถรองรับน้ำได้ แต่แม่น้ำยมนั้นไม่มีจุดรองรับน้ำเลย ซึ่งจะต้องมีการทบทวนหรือหาช่องทางดูดซับน้ำก่อนที่น้ำจะทะลักเข้ามาในพื้นที่สุโขทัย ซึ่งต้องพิจารณาอย่างจริงจัง
รองนายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า แม้ว่าสถานการณ์น้ำจะลดลงและใกล้จะเข้าสู่ปกติ แต่ฤดูฝนยังไม่สิ้นสุด ยังคงต้องมีการเฝ้าระวังอย่างเต็มที่ รวมถึงจังหวัดใกล้เคียงก็ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดด้วย เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่มีความอุ่นใจ ทั้งนี้ ต้องขอบคุณกระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ช่วยดูแลประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ทั้งนี้ อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสำรวจพื้นที่ให้ทั่วถึง ว่ายังมีพื้นที่ไหนที่เล็ดลอดสายตาไป เพื่อเร่งฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับความเสียหาย เร่งเยียวยาประชาชนให้ทั่วถึง
จากนั้น รองนายกรัฐมนตรีตรวจเยี่ยมโรงครัว พบปะประชาชน และมอบถุงยังชีพ จำนวน 200 ชุด ให้แก่ผู้ประสบภัย พร้อมกล่าวทักทายและแสดงความห่วงใยต่อประชาชนที่มาร่วมงาน โดยย้ำว่ารัฐบาลตระหนักถึงปัญหาที่ชาวสุโขทัยต้องเผชิญซ้ำซากจากอุทกภัยทุกปี
รองนายกรัฐมนตรียังได้เน้นถึงความสำคัญของการแก้ไขปัญหาในระยะยาว โดยการวางแผนการจัดการน้ำอย่างเป็นระบบ และเสนอให้การแก้ไขปัญหาน้ำท่วมเป็นวาระแห่งชาติ เพื่อให้การดำเนินการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมเป็นไปอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน
จากนั้น รองนายกรัฐมนตรีและคณะ ได้เดินทางไปตรวจติดตามสถานการณ์น้ำพร้อมรับฟังรายงานภาพรวมการระบายน้ำจากกรมชลประทาน ซึ่งขณะนี้สถานการณ์น้ำเข้าสู่ภาวะปกติ และต่ำกว่าตลิ่ง โดยเฉพาะที่อำเภอเมือง ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่งประมาณ 1 เมตร สำหรับน้ำที่ค้างทุ่งอยู่จะใช้วิธีเปิดทางน้ำเพื่อระบายน้ำที่ลุ่มต่ำสู่ระบบ นอกจากนี้ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ เครื่องผลักดันน้ำประมาณ 20 เครื่อง เร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่โดยเร็ว บรรเทาความเดือดร้อนประชาชน
จากนั้น รองนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางไปติดตามสถานการณ์น้ำ ณ ประตูระบายน้ำบ้านคลองหกบาท ตำบลป่ากุมเกาะ อำเภอสวรรคโลก จังหวัดสุโขทัย ซึ่งเป็นโครงการปรับปรุงแม่น้ำยมสายเก่า (แม่น้ำยมฝั่งซ้าย) งบประมาณสร้างต่อเนื่องถึงปี 2569 เมื่อสร้างเสร็จผนังกั้นน้ำจะช่วยเเก้ปัญหาน้ำท่วมในจังหวัดสุโขทัยได้อีกระดับหนึ่ง
รองนายกรัฐมนตรี ได้สอบถามถึงศักยภาพในการระบายน้ำว่าสามารถรองรับน้ำได้มากน้อยเพียงใดหากมีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้น โดยกำชับให้เฝ้าระวังสถานการณ์และเร่งช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยโดยเร็ว