นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ติดตามสภาพอากาศและปัจจัยเสี่ยงเชิงพื้นที่พบว่าในช่วง 1-2 วันที่ผ่านมาบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกและภาคใต้ มีฝนตกหนักต่อเนื่องรวมถึงฝนตกหนักทำให้ระดับน้ำในลำคลองเพิ่มสูงขึ้น และเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงขุ่น มีน้ำหลากและดินไหลในบางพื้นที่ อาจทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากและดินถล่มในช่วงวันที่ 10–11 ส.ค. นี้
ดังนั้น จึงได้ประสานศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตและจังหวัดในพื้นที่ต้องติดตามสถานการณ์น้ำป่าไหลหลากและดินถล่ม 9 จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดแม่ฮ่องสอน น่าน ตาก กาญจนบุรี จันทบุรี ตราด ชุมพร ระนอง และจังหวัดพังงา ดำเนินการตามมาตรการและแนวทางการปฏิบัติตามแผนเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัย ด้วยการจัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศปริมาณฝนระดับน้ำและแนวโน้มสถานการณ์ภัยอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง
พร้อมจัดเตรียมชุดเคลื่อนที่เร็วเครื่องมืออุปกรณ์เข้าประจำพื้นที่เสี่ยงให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัย รวมถึงแจ้งเตือนประชาชนติดตามพยากรณ์อากาศและปฏิบัติตามประกาศเตือนภัยอย่างเคร่งครัด
ทั้งนี้กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศฉบับที่ 16 เตือนภาคตะวันออกและภาคใต้ฝั่งตะวันตกมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณ จังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง สตูล จันทบุรี และตราด ระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ทะเลอันดามันคลื่นสูง 2-4 เมตร และอ่าวไทยตอนบนคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร เรือเล็กงดออกจากฝั่ง