นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ส.ส.จังหวัดน่าน เปิดเผยว่า จากที่พรรคร่วมฝ่ายค้านยื่นหนังสือถึงรัฐบาลเพื่อขอให้เปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรสมัยวิสามัญ เพื่อพิจารณาพระราชกำหนด 3 ฉบับ วงเงิน 1.9 ล้านล้านบาทของรัฐบาล เพื่อสอบถามการใช้งบประมาณ รวมทั้งให้คำแนะนำ นำเงินที่กู้มาไปใช้อย่างก่อประโยชน์สูงสุด สามารถที่จะช่วยเหลือประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ นั้น
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไม่ให้ความสำคัญกับสภาจึงไม่อยากให้มีการเปิดสภาเพื่อหารือการแก้ปัญหาให้ประชาชน เพราะคงเชื่อว่าไม่มีประโยชน์อะไรต่อรัฐบาล ดังนั้น จึงไม่คิดจะให้ ส.ส.ใช้เวทีสภามาตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลได้หากยังไม่ถึงเวลา จึงส่งสัญญาณผ่านพรรคร่วมรัฐบาลว่าไม่เปิดสภาให้มีการประชุมวิสามัญ
นายแพทย์ชลน่าน กล่าวด้วยว่า ทั้งที่การประชุมสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทำหน้าที่ตัวแทนของประชาชน ในช่วงวิกฤติโควิด-19 ส.ส.ทุกคนลงพื้นที่รับฟังปัญหาของพี่น้องประชาชนในแต่ละพื้นที่อย่างหนักเพื่อมานำเสนอให้รัฐบาลรับทราบ และหาทางแก้ปัญหา ดังนั้นรัฐบาลจึงทิ้งโอกาสที่จะได้สื่อสารกับประชาชน อีกทั้งไม่สนใจที่จะรับฟังเสียงของคนจนทั่วประเทศ เป็นการปิดโอกาสที่จะได้รับรู้ความเดือดร้อนของประชาชนอย่างไม่รับผิดชอบ
"ที่ผ่านมาพรรคร่วมฝ่ายค้าน ส่งเสียงเรียกร้องของประชาชนในทุกๆ เรื่อง โดยเฉพาะเรื่องการให้ความช่วยเหลือ การเยียวยาประชาชนที่ไม่ตรงกลุ่มเป้าหมาย มีหลายคนที่เดือดร้อนไม่ได้รับเงินเยียวยา จนหลายคนฆ่าตัวตายเพราะไม่มีเงินจำนวนมาก แต่รัฐบาลกลับไม่เคยพูดถึง ดังนั้นประชาชนเชื่อว่ารัฐบาลไม่จริงใจในการแก้ปัญหาให้กับคนจน" นายแพทย์ชลน่านกล่าว