วันที่ 4 ก.ค. 2565 ณ อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (ดินแดง) นฤนันมนต์ ห่วงทรัพย์ สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร เขตคลองสามวา ในฐานะโฆษกสภา กทม. เปิดเผยว่า ในวันพุธที่ 6 ก.ค. 2565 สภากรุงเทพมหานครจะเปิดการประชุมสภากรุงเทพมหานครสมัยประชุมสามัญ สมัยที่ 3 ครั้งที่ 1 ซึ่งเป็นการปฏิบัติหน้าที่ของสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) ที่มาจากการเลือกตั้งชุดนี้เป็นครั้งแรก
นฤนันมนต์ กล่าวว่า สำหรับวาระสำคัญของการพิจารณาคือ ร่างข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2566 โดยการประชุมครั้งนี้จะมีการถ่ายทอดสดการประชุมผ่านช่องทางออนไลน์ ของสถานีโทรทัศน์ ไทยพีบีเอส ได้แก่ ยูทูป และเฟซบุ๊ก เพจ Thai PBS โดยถือว่าเป็นก้าวแรกที่สำคัญของสภากรุงเทพมหานคร เพื่อให้ประชาชนได้ร่วมรับทราบข้อมูลการพิจารณาที่โปร่งใส สอดคล้องกับนโยบายของฝ่ายบริหารนำโดย ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
อย่างไรก็ตามข้อกังวลเกี่ยวกับการถ่ายทอดสดการประชุมครั้งนี้คือการที่ ส.ก.ไม่มีเอกสิทธิ์คุ้มครองในการอภิปรายเหมือนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ซึ่งเอกสิทธิ์คุ้มครองหมายถึงสมาชิกฝ่ายนิติบัญญัติจะได้รับความคุ้มครองจากการฟ้องร้องทางแพ่ง หรืออาญาจากการกระทำหรือคำพูดที่เกิดขึ้นระหว่างการทำหน้าที่ในฐานะฝ่ายนิติบัญญัติ
แต่เนื่องจากส.ก.ไม่มีเอกสิทธิ์คุ้มครองดังกล่าว ทำให้ต้องใช้ความระมัดระวังในการกล่าวก้าวล่วงบุคคลที่สามเป็นพิเศษ ในอนาคตหากเป็นไปได้อยากจะให้มีการแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้สมาชิกได้สามารถปฏิบัติหน้าที่ในฐานะผู้แทนของประชาชนได้อย่างเต็มที่
นฤนันมนต์ เปิดเผยข้อเท็จจริงอีกว่า ที่ผ่านมามีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนเกี่ยวกับงบฯเขต โดยเข้าใจว่าแต่ละเขตมีงบมากถึง 300-500 ล้านบาท แต่ในความเป็นจริงแต่ละเขตมีงบไม่มาก เช่น เขตคลองสามวาซึ่งอยู่ในความดูแล มีงบเพียง 72 ล้านบาท แต่ในข่าวที่มีการนำเสนอว่ามีงบ 400 ล้านบาท โดยข้อเท็จจริงคือ หน่วยงานอื่น อาทิ สำนักการโยธาได้ตั้งงบเพื่อการก่อสร้างโรงพยาบาลคลองสามวา ในพื้นที่เขตคลองสามวาด้วย จึงทำให้งบประมาณซ้อนกันอยู่
"หากมีการเปิดเผยรายละเอียดให้ชัดเจนจะลดความสับสน และประชาชนสามารถเข้าใจกระบวนการจัดสรรงบประมาณได้ดียิ่งขึ้น และหากประชาชนอยากร่วมพูดคุยหรือร้องเรียนข้อเดือดร้อน สามารถแจ้งผ่านเพจของ สภากรุงเทพมหานคร หรือเพจส่วนตัวของ ส.ก.ทั้ง 50 ท่านได้ ซึ่ง ส.ก.ทุกท่านพร้อมติดตามและแก้ไขปัญหาเพื่อประโยชน์ของประชาชนทุกคน” นฤนันมนต์ กล่าว
นอกจากนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามที่ผู้ว่าฯ กทม. เห็นควรให้มีการเปิดเผยสัญญาการเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวให้เป็นสาธารณะเพื่อให้ประชาชนรับทราบอย่างทั่วถึงนั้น นฤนันมนต์ กล่าวว่า ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการสนับสนุนให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมในการตรวจสอบย้อนหลัง ซึ่งในประเด็นนี้สภากทม. ขอให้ฝ่ายบริหารได้เปิดเผยข้อมูลของหน่วยงาน
อาทิ โครงการ สัญญาจ้าง และงบประมาณ ย้อนหลังด้วย เพื่อให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมในการตรวจสอบข้อมูล ป้องกันการหาผลประโยชน์โดยมิชอบ และให้การใช้จ่ายเงินงบประมาณ ซึ่งเป็นภาษีของประชาชนเป็นไปอย่างโปร่งใส คุ้มค่า และเกิดประโยชน์ต่อสาธารณะสูงสุด