วันที่ 7 ก.พ. อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงจุดยืนของพรรคในร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม ที่จะไม่มีมาตรา 112 ว่า เรื่องนี้ถามพรรคภูมิใจไทยไม่ได้ เพราะเราไม่มีปัญหากับมาตรา 112 เลยแม้แต่น้อย ที่มีอยู่ทุกวันนี้ก็ไม่ทำให้เราเดือดร้อนหรือไม่พอใจใดๆ ซึ่งหากถามตนก็ต้องตอบแบบนี้เพราะตนไม่มีความรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ
เมื่อถามว่า หาก ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อาจโดนคดีมาตรา 112 จะไม่เปลี่ยนแนวทางของพรรคภูมิใจไทยหรือไม่ อนุทิน กล่าวว่า ตนจะไปตอบอย่างนั้นไม่ได้ แนวทางของเราที่ผ่านมาไม่แตะมาตรา 112 สัญญาประชาคมแต่ละพรรคไม่เหมือนกัน พร้อมย้ำว่า พรรคภูมิใจไทยหาเสียงมาไม่แตะมาตรา 112 เพราะถ้าหากไปแตะ ก็เท่ากับเราไม่รักษาสัญญา
อนุทิน กล่าวถึงกรณีที่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีการพูดคุยถึงเรื่องการนิรโทษกรรมคดีปืนเถื่อน ว่า ถือเป็นข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี ที่จะให้ดำเนินการควบคุมอาวุธปืนเถื่อน โดยหลักการแล้วจะต้องออกกฎหมายไม่ว่าจะเป็น พ.ร.บ. หรือ พ.ร.ก. ซึ่งเบื้องต้นคาดว่าจะเป็น พ.ร.ก. ผู้ที่มีอาวุธปืนไม่มีทะเบียนหรืออาวุธเทียมปืนทั้งหลาย ให้นำมามอบให้กับส่วนราชการ และออกเป็นการนิรโทษ ซึ่งถือเป็นแนวทางที่ กระทรวงมหาดไทยตั้งใจจะดำเนินการอยู่แล้วและมีรัฐบาลให้การสนับสนุน ซึ่งจะสามารถเร่งรัดให้เร็วขึ้นได้
อนุทิน ยังยอมรับด้วยว่า ปืนเถื่อนในประเทศไทยมีอยู่หลายล้านกระบอก ซึ่งไม่ได้หมายถึงปืนอย่างเดียวแต่หมายรวมถึงวัตถุเทียมแทนปืนด้วย โดยเฉพาะสินค้าเทียมปืนที่เป็นของเล่น และนำมาดัดแปลงกลายเป็นปืนที่มีอนุภาพร้ายแรง ทำลายชีวิตและทำให้ผู้คนได้รับบาดเจ็บได้ ซึ่งนับว่าเป็นโอกาสที่ดีที่ผู้ครอบครองสิ่งเหล่านี้ที่ถือว่าผิดกฎหมายได้ส่งคืนให้กับรัฐแบบไม่มีความผิด
อนุทิน กล่าวถึงการรวมบัตรประชาชน กับบัตรผู้พิการไว้ด้วยกัน ว่า หากรวมได้ ก็จะเป็นเรื่องดี เพราะผู้พิการจะไม่ได้ไม่ต้องถือหลายบัตร ซึ่งไทยมีการลงทุนกับระบบบัตรสมาร์ทการ์ดที่มีชิพอยู่การรวมไว้ด้วยกัน จึงเป็นเรื่องง่ายเพียงแค่เพิ่มคุณสมบัติและข้อจำกัดเข้าไว้ไป
ส่วนจะเริ่มได้เมื่อไหร่ จะมีการหารือกับกระทรวงพัฒนาสังคม ซึ่งก่อนหน้านี้ วราวุธ ศิลปอาชา ได้สอบถามมายังกระทรวงมหาดไทยว่ามีปัญหาหรือไม่หากจะมีการรวมบัตรประชาชนกับบัตรผู้พิการไว้ด้วยกัน ซึ่งกระทรวงมหาดไทยได้ตอบกลับว่าไม่ขัดข้องอยู่แล้ว ซึ่งขอให้กระทรวงพัฒนาสังคมผู้เป็นเจ้าภาพ เป็นผู้รวบรวมข้อมูล