ธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวถึงท่าทีการประชุมกรรมการบริหารพรรคฯ วันนี้ภายหลัง เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรคฯ ประกาศว่าจะไม่มีการรีแบรนด์ ว่า วันนี้เป็นการประชุมนัดแรกหลังการเลือกตั้ง และได้ ส.ส. มา 36 คน ทั้งเก่าและใหม่ เบื้องต้น พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรคฯ จะมีการซักซ้อม แนะนำ ส.ส.ใหม่ในการทำหน้าที่ให้ดีและถูกต้องในสภาผู้แทนราษฎร รวมถึ อาจจะมีการหารือในเรื่องของพรรค
พร้อมยืนยันว่า พรรครวมไทยสร้างชาตินั้นดีอยู่แล้ว แต่ตนคิดว่าหากมีอะไรเพิ่มเติม ส.ส.ทุกคนก็จะเสนอมา เพราะเมื่อผลการเลือกตั้งออกมาเช่นนี้ก็ต้องไปดูถึงจุดอ่อนจุดแข็งของ ว่ามีจุดใดบ้างที่ต้องปรับปรุง โดยเฉพาะในเรื่องของการใช้คนทุกรุ่นทุกช่วงวัยมาช่วย รวมถึงการใช้สื่อโซเชียลต่างๆ
เมื่อถามว่า มีความเป็นไปได้หรือไม่ในการเปลี่ยนแปลงกรรมการบริหารพรรค ธนกร ปฏิเสธว่า ตนไม่ทราบในเรื่องนี้ แต่ในเรื่องการรีแบรนด์ ตนเข้าใจว่าไม่ใช่เรื่องไม่ดี แต่การจะทำให้พรรคการเมืองเป็นที่สุดและเป็นที่พึงพอใจของคนทั้งประเทศ ทุกครั้งก็ต้องมีการพัฒนาปรับปรุงโดยตลอด พร้อมที่เห็นว่าการพูดคุยภายในพรรคไม่ได้มีปัญหาอะไรกันมีการพูดคุยซึ่งกันและกัน ทุกคนให้เกียรติกัน ทั้งหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค ก็ทำหน้าที่ได้ดีอยู่แล้ว และทาง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรค ก็ช่วยดูอีกทีหนึ่ง
เมื่อถามว่า การบริหารจัดการของพรรคที่ผ่านมาอาจทำให้ ว่าที่ ส.ส.อยู่กับพรรคเพียงในนามเท่านั้น ธนกรกล่าวว่า เรื่องนี้ตนยังไม่ได้ยิน แต่มองว่าทุกเรื่องสามารถพูดคุยกันได้ และที่อยู่กันมาก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร โดยกรรมการบริหารพรรคทุกคนก็ให้เกียรติซึ่งกันและกัน พร้อมยืนยันว่าเราสามารถพูดคุยกันได้ไม่มีปัญหาอะไร
เมื่อถามถึงบทบาทของ พล.อ.ประยุทธ์ จะยังอยู่ช่วยงานพรรคหรือไม่ ธนกร กล่าวว่า เรื่องนี้ตนไม่ทราบจริงๆว่า พล.อ.ประยุทธ์ คิดอย่างไร และไม่ขอไปก้าวล่วง แต่ตนและ ส.ส.ส่วนใหญ่ เราให้เกียรติ พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งหาก พล.อ.ประยุทธ์ ให้ปฏิบัติอย่างไร ตนก็พร้อมปฏิบัติตาม ก่อนที่จะย้ำว่าทุกอย่างอยู่ที่ พล.อ.ประยุทธ์ เ้ป็นผู้ตัดสินใจเพียงผู้เดียว
ส่วนกังวลหรือไม่หาก พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้ทำงานที่พรรคแล้ว ส.ส.ที่ได้มาอาจไม่อยู่กับพรรค ธนกร มองว่า อาจไม่ถึงขั้นนี้ เพราะวันนี้เพิ่งเลือกตั้งมาและการทำงานในพรรคส่วนใหญ่ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร และเชื่อว่าเราสามารถไปต่อทำงานร่วมกันได้
เมื่อถามว่า จะมีการเปลี่ยนแปลงใหญ่ภายในพรรคหรือไม่ อาจจะมีกระแสข่าวว่าอาจมีการเปลี่ยนตัวหัวหน้าพรรค ธนกร ปฏิเสธว่า ประเด็นดังกล่าวตนไม่ทราบ แต่คิดว่าคงไม่ และก็ไม่รู้ว่าจะปรับเปลี่ยนทำไมในช่วงนี้ ซึ่งตนมองว่าหัวหน้าและเลขาธิการพรรคก็ทำงานได้ดีอยู่แล้ว และเลขาธิการพรรคก็เป็นมือประสานสิบทิศ และพวกตนก็ช่วยพรรคอยู่แล้ว จึงคิดว่าไม่ควรเปลี่ยนแปลงอะไรในช่วงนี้
เมื่อถามว่า มองอย่างไรถึงบรรยากาศการจัดตั้งรัฐบาลในช่วงนี้ ธนกร กล่าวว่า ตนมองว่าดูเหมือนไม่ง่าย แต่ว่าก็ต้องให้เกียรติพรรคลำดับ 1 เขาจะตั้งกันไป ซึ่งยังมีเวลาอยู่ แต่สิ่งที่ตนอยากจะฝากไว้ก็คือ ในส่วนการชุมนุมเคลื่อนไหวต่างๆเพื่อกดดันสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ตนคิดว่าอย่าเป็นแค่นั้นเลย เพราะมันเพิ่งเริ่มต้น และมองว่าพรรรคก้าวไกล ก็น่าจะทำความเข้าใจกับสมาชิกและเครือข่ายได้ ไม่น่าจะมีการประชุมนมกดดัน
"ไหนท่านบอกว่ายอมรับในระบอบประชาธิปไตยไง เพราะฉะนั้นไม่ควรไป เพิ่งเริ่มต้นอย่างเพิ่งเคลื่อนไหวกันเลย เพราะไม่งั้นบ้านเมืองก็จะมีแต่ความขัดแย้งอีก วันนี้ควรให้เกียรติซึ่งกันและกัน และควรพูดจากกันด้วยเหตุและผล เพราะท่านไปขอเสียง ส.ว. แต่ท่านไปชุมนุมเคลื่อนไหวกดดัน ผมเข้าใจว่า มี ส.ว.ออกมาบอกแล้วว่าคงไม่ให้ มันอาจจะทำให้การจัดตั้งรัฐบาลนั้นสะดุดได้ ผมให้กำลังใจอยู่แล้ว อยากให้จัดตั้งรัฐบาลเร็วๆด้วยซ้ำจะได้แสดงฝีมือให้ประชาชนได้เห็น พวกเราก็พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้านในการตรวจสอบรัฐบาลอย่างเข้มข้น"
เมื่อถามว่า มีการมองว่าถ้าพรรคก้าวไกลจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ จะเกิดความไม่สงบในประเทศ ธนกรกล่าวว่า เราอย่าไปคิดคาดการณ์เลย วันนี้ผมเป็นห่วงตรงที่ว่า สิ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์ ทำมา 7-8 ปีบ้านเมืองกำลังฟื้นตัว และเราก็ใช้ชีวิตอย่างสงบ มีความสุข รวมถึงคนทั้งประเทศก็มีความสุข เศรษฐกิจก็ฟื้นตัว เพราะฉะนั้นรัฐบาลใหม่ควรเร่งที่จะทำต่อ ไม่ควรมีความขัดแย้งใดๆเกิดขึ้นแล้ว เพราะเราเสียโอกาสไปอยู่