ไม่พบผลการค้นหา
'เศรษฐา' เผยเตรียมหารือ ครม.พรุ่งนี้ พิจารณาพักหนี้เกษตรกร ชี้เร่งทำพักต้นและดอกให้ได้ภายในไตรมาส 4 หวังฟื้นฟูจิตใจให้มีแรงทำมาหากินอย่างมีศักดิ์ศรี โดยไม่เสียอำนาจการคลัง - รับปากจะดูแลเรื่องรายได้ครูและข้าราชการ

วันที่ 12 ก.ย. เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ลุกขึ้นชี้แจงในการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา เป็นรอบที่ 4 ในวันนี้ ว่า สืบเนื่องมาจากที่สมาชิกได้อภิปรายถามถึงเรื่องการพักหนี้ของเกษตรกร รัฐบาลของประชาชนที่ประกอบด้วยพรรคร่วมรัฐบาล 11 พรรค ได้ตระหนักดีถึงความเดือดร้อนของเกษตรกรทุกคน และตั้งแต่ที่ตนรับตำแหน่งมา แม้ยังสั่งการไม่ได้ แต่ก็ได้ลงพื้นที่ไปเยอะ ซึ่งนอกจากปัญหาเรื่องปากท้องนั้นปัญหาเรื่องการเกษตร รายได้และหนี้สินก็เป็นสิ่งที่สำคัญ ฉะนั้นพรุ่งนี้ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ครั้งแรก ก็จะนำเรื่องการพักหนี้เข้าสู่การพิจารณาของ ครม.

ทั้งนี้ การพักเกษตรกรเรามีแนวทางเร่งด่วน โดยมีเป้าหมายที่จะทำให้ได้ภายในไตรมาส 4 ของปีนี้ โดยจะทำการพักหนี้ทั้งต้นและดอก พร้อมกับแผนการสร้างรายได้โดยการปรับเปลี่ยนโครงสร้างการปลูกผลิตตามที่ตลาดโลกต้องการในปริมาณที่เหมาะสม รวมถึงจะมีการเตรียมความรู้และเทคโนโลยีเข้ามาใช้ ยกตัวอย่างเช่น การใช้ปุ๋ยตามค่าดิน ถ้าเราใช้ปุ๋ยในจุดที่ถูกต้อง จะลดจำนวนปริมาณการใช้ปุ๋ย และเพิ่มผลผลิตได้อย่างมาก ซึ่งเข้ากับหลักแนวความคิดของพรรคเพื่อไทยและรัฐบาล ที่จะใช้หลักเกษตรแม่นยำเข้ามาช่วยเกษตรกรในการเพิ่มผลผลิตและเพิ่มรายได้ พร้อมกับลดรายจ่าย

สำหรับการพักหนี้ทั้งต้นและดอก เป็นการฟื้นฟูจิตใจของเกษตรกรเพื่อให้ทุกคนมีกำลังใจ มีแรงกายในการทำมาหากินเพื่อสร้างรายได้อย่างมีเกียรติและศักดิ์ศรี โดยทำให้ในอนาคตไม่เสียอำนาจทางการเงินและการคลัง

ส่วนเรื่องการใช้เครือข่ายนั้น เรามีความจำเป็นที่ต้องถ่ายทอดความรู้ให้กับเกษตรกร เพื่อให้สามารถนำไปปรับใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยควบคู่ไปกับการพัฒนาความรู้ให้กับเกษตรกรทั่วไป 

เศรษฐา ระบุอีกว่า เมื่อคืน (11 ก.ย.) ช่วงดึก ไปให้สมาชิกอภิปรายถึงเรื่องสุกรเถื่อน ตนได้รับฟังปัญหามาก่อนหน้านี้แล้วในทุกพื้นที่ ว่าเป็นปัญหาใหญ่และลามไปทั่วประเทศ ซึ่งเรื่องนี้ผมได้ประสานกับอธิบดีกรมศุลกากร แล้ววันนี้จะมีการเชิญเจ้าหน้าที่มารับทราบข้อมูลและพยามหาแผนสั่งการออกมาให้ได้เร็วๆ 

ส่วนเรื่องรายได้ของครูและข้าราชการ ซึ่งเป็นภาคส่วนสำคัญในการดูแลประชาชนในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไปข้างหน้า ซึ่งเป็นภาคส่วนที่รัฐบาลให้ความสำคัญ โดยทางเราจะรับปากดูแลในเรื่องรายได้ให้เหมาะสม กับงบประมาณควบคู่กันไปโดยรักษาวินัยการเงินกลางคลัง