คณะกรรมาธิการการต่างประเทศ สภาผู้แทนราษฎร พิจารณาสถานการณ์โลก กรณีความขัดแย้งของสหรัฐอเมริกา กับ อิหร่าน ที่ส่งผลต่อประเทศไทย ที่นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ว่าไทยได้รับแจ้งก่อนล่วงหน้า 1 วันที่สหรัฐอเมริกาจะสังหารนายพลกัสซิม โซเลมานี ผู้บัญชาการกองกำลังกุดส์ กองกำลังสำคัญของกองทัพพิทักษ์ปฏิวัติอิหร่าน (IRGC)
โดย กมธ. ได้เชิญนายดอน มาชี้แจง ขณะที่นายดอน ติดภารกิจไปประชุมรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศอาเซียนที่ประเทศเวียดนาม จึงได้ส่งนายเจษฎา กตเวทิน รองปลัดกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ระดับสูงและนักการทูตชำนาญการมาชี้แจงแทน
น.ส.พรรณิการ์ วานิช รองประธานกรรมาธิการ กล่าวว่า การที่นายดอน ออกมาให้ข่าวว่าสหรัฐฯ ติดต่อกับอาเซียนอยู่ตลอด และสหรัฐฯ เองก็ได้ส่งสัญญาณมาล่วงหน้าแล้ว 1 วันก่อนโจมตีอิหร่าน หลังจากนั้นภายใน 3 ชั่วโมงก็มีการชี้แจงจากโฆษกกระทรวงการต่างประเทศว่าเป็นการรับทราบข้อมูลคลาดเคลื่อน ไทยไม่ได้รับสัญญาณล่วงหน้าจากสหรัฐฯ ก่อนการโจมตีอิหร่าน แล้ววันรุ่งขึ้นนายดอนก็ออกมาชี้แจงอีกครั้งว่าตนได้รับข้อมูลคลาดเคลื่อน ตนจึงตั้งคำถามว่าเหตุใดจึงเกิดการรับทราบข้อมูลคลาดเคลื่อน และข้อมูลดังกล่าวได้มาอย่างไร เป็นข้อมูลชุดเดียวกันกับกระทรวงหรือไม่
นายองอาจ วงษ์ประยูร รองประธานกรรมธิการฯ ตั้งคำถามว่า การสร้างความสับสนนี้จะเกิดผลกระทบกับประเทศไทยในทางไหนหรือไม่ และ กต. มีวิธีการดูแลคนไทยในตะวันออกกลางอย่างไร
นายเกียรติ สิทธิอมร รองประธานกรรมาธิการ ถามต่อว่าแล้วกระทรวงฯ ได้มีการควบคุมผลกระทบหรือความเสียหายที่จะเกิดขึ้นอย่างไร และประเทศอื่นๆ มีปฏิกิริยา และส่งสัญญาณมาทางประเทศไทยอย่างไรบ้าง
นายศุภชัย ใจสมุทร รองประธานกรรมาธิการ ถามว่า เหตุใดไม่ปรากฎว่าประเทศไทยได้แสดงความเสียใจให้กับการสูญเสียบุคคลคนสำคัญของประเทศอิหร่าน และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของไทยกับอิหร่านตอนนี้เป็นอย่างไร
ด้านนายเจษฎา กล่าวก่อนการชี้แจงว่า นายดอน ติดภารกิจ และหากเสร็จสิ้นภารกิจแล้ว ก็สามารถจะเดินทางมาตอบคำถามจาก กมธ. ด้วยตัวเองได้อีกครั้ง ทั้งนี้ข้อผิดพลาดจากการให้สัมภาษณ์ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งท่านเองเมื่อทราบว่าเกิดความผิดพลาดก็รีบสั่งการให้โฆษกกระทรวงแถลงแก้ข่าว และวันรุ่งนี้ก็ออกมาให้สัมภาษณ์แก้ข่าวด้วยตัวเองอีกครั้ง ซึ่งในเรื่อง Damage control ทางกระทรวงใช้วิธีการเอาข้อเท็จจริงออกมาชี้แจงให้หมด และโชคดีที่ประเทศที่เกี่ยวข้องไม่มีใครติดใจทักท้วง แม้แต่ประเทศอิหร่าน
พร้อมยืนยันว่าประเทศในกลุ่มอาเซียนก็ไม่ได้ติดใจหรือมาสอบถามอะไร ทั้งยังยืนยันว่าไทยไม่รู้ข้อมูลการโจมตีก่อนล่วงหน้า เพราะเป็นมิตรกับทั้งประเทศอิหร่านและสหรัฐอเมริกา ขณะเดียวกันสถานการณ์รวมของโลกตอนนี้เป็นความขัดแย้งโดยใช้อาวุธสมัยใหม่ ทำให้ขั้วและค่ายไม่ชัดเจน เช่น กรณีสหรัฐฯ โจมตีอิหร่านก็ไม่มีประเทศใดออกมาประณาม หรือประเทศตัวเพื่อล้างแค้นเหมือนสมัยก่อน
ส่วนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ไทยยังมีความสัมพันธ์ที่ดีกับอิหร่าน แม้จะอยู่ภายใต้การลงโทษ (sanction) ของสหรัฐอเมริกา แต่ในภาคเอกชนของไทยและอิหร่านยังมีความสัมพันธ์ที่ดี และประเทศไทยในสายตาของอิหร่านยังมองไทยในภาพที่ดี
อย่างไรก็ตาม นายเจษฎา ยืนยันอีกว่า ข้อมูลที่ประเทศไทยได้รับมีเพียงชุดเดียว คือไม่ได้รับการแจ้งล่วงหน้าจากสหรัฐอเมริกา และข้อมูลที่นายดอนพูดไม่มีที่มาที่ไปที่ตนทราบ จึงถือว่าไม่ขัดแย้งกับข้อมูลของกระทรวง แต่หากสงสัยว่าทำไมถึงนายดอนให้สัมภาษณ์ไปอย่างนั้น ณ ขณะนั้น ต้องให้นายดอนมาชี้แจงเองว่ามีอะไรอยู่ในหัวตอนนั้น
นายเจษฎา ยอมรับว่า เป็นความผิดพลาดในการให้ข่าวจากข้อมูลที่ได้รับมาคลาดเคลื่อน และไทยไม่เคยได้รับสัญญาณใดๆก่อนการโจมตี พร้อมยืนยันว่าประเทศที่เกี่ยวข้องไม่มีใครติดใจหรือทักท้วง
ด้าน น.ส.สรัสนันท์ อรรณนพพร ส.ส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย ในฐานะกรรมาธิการถามถึงสปิริตความรับผิดชอบจาก นายดอน ปรมัตถ์วินัย ว่าภาคประชาชนหมดความเชื่อถือต่อรัฐมนตรีที่พูดไม่คิด ละเมิดวิถีการทูต เปิดเผยข้อมูลกระทบความมั่นคงระดับประเทศ และอย่าคิดว่าทั้งสองประเทศไม่ติดใจแม้จะไม่มีการโต้ตอบ เพราะต่างฝ่ายสงวนท่าทีความสัมพันธ์เท่านั้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :