พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระบุหลังมีประกาศราชกิจจานุเบกษา ยกเลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่กรุงเทพมหานคร และคำสั่งอื่นที่เกี่ยวข้อง กองอำนวยการร่วมแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง หรือ กอร.ฉ. ที่ตั้งขึ้นมาตามคำสั่งดังกล่าว ก็จำเป็นต้องยุติการทำหน้าที่ด้วยเช่นกัน แต่จะปรับไปเป็นรูปแบบอื่น
ซึ่งการยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ส่วนหนึ่งมาจากการที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นผู้ประเมินสถานการณ์ต่อนายกรัฐมนตรี ที่เห็นว่าสถานการณ์ได้คลี่คลายลงแล้ว ซึ่งหลังจากนี้ ตำรวจจะกลับไปใช้กฎหมายปกติดูแลการชุมนุม เช่น พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะฯ, พ.ร.ก.ฉุกเฉินเพื่อควบคุมสถานการณ์การระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2019, พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ และกฎหมายอาญาทั่วไป
ส่วนภาพรวมการชุมนุมในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ขณะที่เหตุการณ์ปะทะบริเวณมหาวิทยาลัยรามคำแหง มีผู้ชุมนุมฝ่ายราษฎร ที่ถูกทำร้ายร่างกาย 2 คน เข้าแจ้งความแล้วนั้น ยืนยันว่าตำรวจจะสืบสวนทำคดีอย่างตรงไปตรงมา ย้ำไม่ว่าผู้ชุมนุมฝ่ายใดทำผิด ก็ต้องดำเนินคดีในมาตรฐานเดียวกัน
ด้านพล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ยืนยันว่าจะต้องมีการตรวจสอบกลุ่มคนเสื้อเหลืองในทุกมิติเช่นกัน ว่ามีการชักชวนให้มีการชุมนุมหรือไม่ รวมถึงมีท่อน้ำเลี้ยงหรือไม่ ซึ่งหลังยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ต้องมีการทบทวนและปรับการดำเนินการให้เหมาะสม และเป็นไปตามกฎหมายที่เปิดช่องให้ ส่วนการจัดกำลังดูแลการชุมนุม ยังคงให้กองร้อยควบคุมฝูงชนปฏิบัติหน้าที่ดูแลสถานการณ์ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร พร้อมเชื่อว่าหากถอยคนละก้าว โดยใช้กลไกรัฐสภา สถานการณ์จะดีขึ้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง