นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทยและนายประเสริฐ จันทรรวงทอง อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ที่ร่วมกันผลักดันโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูง สมัยรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ลงพื้นที่พร้อมขึ้นรถแห่ ช่วยหาเสียงผู้สมัครเขต12 นายศิรสิทธิ์ เลิศด้วยลาภ เบอร์ 5 ที่ตลาดเทศบาลปากช่อง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา
โดยในวันนี้บรรยากาศการหาเสียงเป็นไปอย่างคึกคัก เมื่อคณะนายชัชชาติได้เดินทางมาถึง ได้แวะไหว้ศาลเจ้าและทำบุญตักบาตร โดยผู้ค้าและประชาชนได้ให้การต้อนรับเป็นอย่างดี พร้อมมอบดอกไม้และสวมกอด ขณะที่ผู้ค้าบางรายได้อวยพรให้นายชัชชาติ ว่า ‘ขอให้เป็นนายกรัฐมนตรี’และบอกว่า ‘ร้านนี้เลือกเพื่อไทยยกบ้าน’
ขณะเดียวกันผู้ค้าต่างสะท้อนปัญหาเศรษฐกิจ ว่า ค้าขายในช่วงนี้ไม่ดี ลูกค้ามาจับจ่ายใช้สอยน้อยลง และหวังว่าหลังการเลือกตั้ง จะมีรัฐบาลที่เข้ามาช่วยเหลือในส่วนนี้
จากนั้นคณะหาเสียงของนายชัชชาติ จะเดินทางไปช่วยผู้สมัครเขต3 อ.สีคิ้ว เบอร์ 4 ประเสริฐ จันทรรวงทอง ก่อนที่จะเดินทางไปขึ้นเวทีปราศรัยที่อ.โนนสูง และปราศรัยจุดสุดท้ายที่ อ.พิมาย จ.นครราชสีมา
"สุดารัตน์" ขอเลือกเพื่อไทยอย่างมียุทธศาสตร์ สู้ ส.ว.250คน
คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย เดินตลาดประปา อำเภอเมืองจังหวัดนครราชสีมาช่วยร้อยตำรวจเอกสุปชัย อินทรักษา ผู้สมัครส.ส.เขต 1 นครราชสีมา พรรคเพื่อไทยหาเสียง โดยได้รับกำลังใจและเสียงเชียร์จากพ่อค้า แม่ค้า ประชาชนตลอดเส้นทาง มอบดอกไม้ของที่ระลึก พร้อมถ่ายภาพร่วมกับคุณหญิงสุดารัตน์เป็นจำนวนมาก แม่ค้าภายในตลาดส่งเสียงเชียร์ตะโกนบอก "หัวใจของฉันมาแล้ว"
จากนั้นได้ขึ้นรถแห่แนะนำผู้สมัครและสื่อสารนโยบายภายในพื้นที่อำเภอเมืองจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวถือเป็นบ้านเกิดของคุณหญิงสุดารัตน์ และมีความคุ้นเคยกับบุคคลที่อยู่ในพื้นที่เพราะอาศัย อยู่ที่ถนนจอมพล อำเภอเมืองจังหวัดนครราชสีมาตั้งแต่ยังเป็นเด็ก
คุณหญิงสุดารัตน์ ให้สัมภาษณ์ว่าปัญหาเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นขณะนี้เพราะประเทศขาดกำลังซื้อ คนส่วนใหญ่ของประเทศไม่มี เงินในกระเป๋า สืบเนื่องจากราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ มีแต่หนี้สิน ไม่มีกำลังจับจ่าย
เมื่อกำลังซื้อหดหาย ร้านค้าทั้งขนาดใหญ่ขนาดเล็กจึงเงียบเหงาทั้งหมด มีแต่คนขายไม่มีคนซื้อ ส่งผล กระทบถึงโรงงานอุตสาหกรรมในจังหวัดขนาดใหญ่
นโยบายของพรรคเพื่อไทยจึงไม่มีเน้นแข่งขันเรื่องตัวเลข แต่เน้นดูแลให้คนมีกำลังซื้อ ซึ่งจะทำให้ระบบเศรษฐกิจมีความคึกคัก ที่ผ่านมารัฐบาลเลือกที่จะไม่ให้ความสำคัญกับระบบฐานรากเน้นการรดน้ำที่ยอดต้นไม้
ดังนั้นพรรคเพื่อไทยจะทำตรงข้ามกับสิ่งที่รัฐบาลนี้ทำ พรรคเพื่อไทยจะเติมเงินที่โคนต้นไม้ และเศรษฐกิจจะดีแบบยั่งยืน ซึ่งทุกกลุ่มจะได้ประโยชน์โดยเฉพาะคนตัวเล็ก sme
คุณหญิงสุดารัตน์ ย้ำว่าการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการเลือกตั้งเชิงยุทธศาสตร์เพราะการเลือกตั้งครั้งนี้มีความได้เปรียบเสียเปรียบ จากการร่างกติกา เพื่อกลับเข้าสู่อำนาจ เสมือนเป็นการ ยึดอำนาจอีกครั้งหนึ่ง ผ่านกติการ่างกฎหมาย ผ่านกลไกที่อยู่ในรัฐธรรมนูญเช่นส.ว. 250 คนซึ่งประชาชนขาดความเข้าใจ และคิดว่า เลือกพรรคเพื่อไทยเป็นอันดับหนึ่งจะสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้
ดังนั้นจึงต้องเลือกอย่างมียุทธศาสตร์ ถ้าประชาชนไม่ต้องการให้พลเอกประยุทธ์ มาเป็นนายกรัฐตรีต่อต้องเลือกเพื่อไทยเท่านั้น เลือกเพื่อไทยอย่างถล่มทลาย เพราะมีเพียงพรรคเพื่อไทยที่มีศักยภาพจะได้ส.ส.มากพอที่จะสามารถต่อสู้กับส.ว.250 คน
คุณหญิงสุดารัตน์มั่นใจว่าพรรคเพื่อไทยจะได้คะแนนเสียงมากที่สุดในประเทศ จึงเรียกร้องว่าอย่าดำเนินการใดๆที่ทำให้เจตนารมณ์ของประชาชนเกิดความบิดเบี้ยว โดยใช้กลไกของส.ว.250 คน
คุณหญิงสุดารัตน์ยอมรับว่าหนักใจ กับปัญหาที่เกิดขึ้นจากการเลือกตั้งล่วงหน้า เพราะจะมีช่องทางให้เกิดการโกงเลือกตั้งในหลายขั้นตอน ทำให้การเลือกตั้งใหญ่น่ากังวล แล้วทำให้พรรคการเมืองต่างๆเสียคะแนนไปจำนวนมาก ซึ่งขัดต่อเจตนารมณ์ของประชาชน และประชาชนสามารถฟ้องได้
ดังนั้นจะมั่นใจได้อย่างไรว่าการเลือกตั้งวันที่ 24 มีนาคม จะไม่เกิดความวุ่นวาย หรือมีทุจริตการเลือกตั้ง เหล่านี้ทำให้เกิดความกังวลว่า อาจทำให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ เพราะมีทฤษฎีสมคบคิด โดยเฉพาะพวกที่แพ้เลือกตั้งแต่ยังอยากอยู่ในอำนาจต่อ ทั้งหมดเป็นความกังวลแต่ประชาชนต้องสู้
คุณหญิงสุดารัตน์เห็นว่าการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการเลือกตั้งที่มีการทุจริตมากที่สุดมีการใช้อำนาจรัฐมากที่สุดอย่างโจ่งแจ้ง แต่ไม่สามารถจับได้แม้จะมีหลักฐานซึ่งกกต.อ้างว่ายังต้องดำเนินการสอบสวนแต่บางเรื่องกับดำเนินการด้วยความรวดเร็ว
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :