นายแพทย์สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า กรมอุตุนิยมวิทยาได้ประกาศว่า ประเทศไทยกำลังจะเข้าสู่ฤดูฝนอย่างเป็นทางการ สภาพอากาศจะเปลี่ยนแปลงบ่อย ฝนตกมากขึ้นในหลายพื้นที่อากาศมีความชื้นสูงทำให้เกิดการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่ได้ง่าย จากข้อมูลการเฝ้าระวังของสำนักระบาดวิทยา พบว่าฤดูฝนช่วงเดือน มิ.ย. - ก.ย. 2561 มีประชาชนป่วยด้วยไข้หวัดใหญ่ถึง 85,287 ราย เสียชีวิต 20 ราย ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเสี่ยงได้แก่ ผู้สูงอายุ มีโรคเรื้อรังประจำตัว จึงกำชับให้สาธารณสุขจังหวัดทุกแห่งให้เร่งลงพื้นที่ให้ความรู้ประชาชน
รวมถึงแนะนำแนวทางการปฏิบัติตน ดูแลสุขภาพให้แข็งแรงเพื่อป้องกันโรค ซึ่งสามารถทำได้โดยง่าย คือ ยึดหลัก “ปิด ล้าง เลี่ยง หยุด” ปิดปากจมูกเมื่อป่วย ไอ จาม สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ ก่อนรับประทานอาหาร เลี่ยงการอยู่ใกล้ผู้มีอาการป่วยมีไข้ ไอ จาม หรืออยู่ในสถานที่คนมาอยู่รวมกันจำนวนมาก ให้หยุดงานหยุดเรียนหยุดกิจกรรมกับผู้อื่นเมื่อป่วย เพื่อให้หายป่วยเร็ว และไม่แพร่เชื้อให้คนอื่น รวมถึงต้องออกกำลังกายสม่ำเสมอ รักษาร่างกายให้อบอุ่น รับประทานอาหารที่สะอาดปรุงสุกใหม่ ครบ 5 หมู่ เพิ่มผักผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง อาทิ พริกหวาน ผักคะน้า ปวยเล้ง ใบมะรุม บล็อกโคลี่ ส้ม มะขามป้อม สตอเบอร์รี่ ฝรั่ง ลิ้นจี่ ดื่มน้ำสะอาดวันละ 6-8 แก้ว และนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
นายแพทย์สุขุม กล่าวต่อว่า สำหรับประชาชน 7 กลุ่มเสี่ยง ได้แก่
กระทรวงสาธารณสุขจะให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ฟรี โดยขอรับบริการวัคซีนได้ที่สถานบริการสาธารณสุขของรัฐ และสถานพยาบาลเอกชนที่ร่วมโครงการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. - 31 ส.ค. 2562
ทั้งนี้ ไข้หวัดใหญ่เกิดจากเชื้อไวรัส มีหลายสายพันธุ์ โดยเชื้อจะอยู่ในน้ำมูก น้ำลาย หรือเสมหะของผู้ป่วย ติดต่อผ่านการไอ จาม หรือติดมากับมือ อาการของผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ มักจะมีไข้สูง ตัวร้อน หนาวสั่น ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร คัดจมูก มีน้ำมูกใสๆ ไอ กลุ่มเสี่ยงหากสงสัยป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ควรพบแพทย์ทันที ผู้ป่วยทั่วไปหากอาการไม่ดีขึ้นภายใน 48 ชั่วโมง หรืออาการรุนแรงขึ้น เหนื่อยมาก ให้รีบพบแพทย์ทันที เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อน ลดอาการรุนแรง และการเสียชีวิตได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง