อีลอน มัสก์ อภิมหาเศรษฐีอันดับ 1 ของโลก ปิดดีลการเข้าซื้อหนึ่งในแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่ทรงอิทธิพลที่สุดของโลกอย่าง 'ทวิตเตอร์' สำเร็จ ด้วยมูลค่า 44,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 1.66 ล้านล้านบาทสำเร็จ
ทันทีที่มัสก์สามารถครอบครองทวิตเตอร์ได้ สำนักข่าว CNN รายงานอ้างอิงแหล่งข่างวงใน 2 คนซึ่งระบุว่า มัสก์ได้สั่งปลด ปราค อัครวาล CEO ของทวิตเตอร์ พร้อมด้วย CFO และผู้บริหารระดับสูงอีกหลายคนในทันที ซึ่ง CNN ได้ติดต่อขอยืนยันข้อมูลกับทางทวิตเตอร์ แต่ยังไม่มีการตอบรับหรือแสดงความเห็นต่อประเด็นนี้แต่อย่างใด
ความเคลื่อนไหวนี้ถือเป็นการเคลียร์ความสับสนและความไม่แน่นนอนที่เกิดขึ้นกับทวิตเตอร์ตลอดช่วงเวลาครึ่งปีที่ผ่านมาตั้งแต่มัสก์เริ่มมีความเคลื่อนไหวที่จะเข้าซื้อทวิตเตอร์ในเดือน เม.ย. โดยหลังตกลงเข้าซื้อ มัสก์มีท่าทีจะถอนตัวจากดีลนี้อยู่หลายเดือน การปิดดีลสำเร็จจึงเป็นการสร้างความชัดเจนต่อทั้งการดำเนินธุรกิจของทวิตเตอร์ พนักงาน ไปจนถึงผู้ถือหุ้นทั้งหมด
การปิดดีลการเข้าซื้อทวิตเตอร์อย่างเป็นทางการทำให้มัสก์และทวิตเตอร์ไม่จำเป็นต้องขึ้นศาลเพื่อยุติคดีความที่มีต่อกันอีกต่อไป อย่างไรก็ตาม คำถามที่สำคัญก็คืออนาคตของทวิตเตอร์จะเป็นอย่างไร และจะกระทบสังคมในวงกว้างอย่างไรบ้าง หลังการไล่ออกบุคคลในตำแหน่งสำคัญที่เพิ่งเกิดขึ้น
หนึ่งในความชัดเจนที่ทั่วโลกทราบกันแล้วจากการกล่าวของมัสก์เองก็คือ เขามีความต้องการที่จะปรับนโยบายของทวิตเตอร์ด้านการจับตาเรื่องเนื้อหาบนแพลตฟอร์ม เพื่อเอื้อให้เกิด 'เสรีภาพทางการแสดงความคิดเห็น' ที่มากขึ้น และมัสก์มไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งกับนโยบายการแบนผู้ทำผิดกฎบ่อยครั้งอย่างถาวร จึงมีความเป็นไปได้ว่ากลุ่มคนที่ถูกแบนไปแล้วแบบถาวรอาจกลับเข้ามาใช้ทวิตเตอร์ได้อีกครั้ง