ไม่พบผลการค้นหา
ศาลให้ 'เดียร์ วริศรา' นำหลักฐานยืนยันได้เรียนต่อเยอรมันจริง หลังขอออกนอกประเทศครั้งที่ 3 เจ้าตัว ยืนยันจะยื่นขอจนกว่าจะได้บิน ย้ำราษฎรคือนักสู้

ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ วริศรา เอกสกุล หรือ 'เดียร์' บัณฑิตคณะอักษรศาสตร์ เดินทางพร้อมครอบครัวและทนายความ เพื่อขออนุญาศาล เดินทางออกนอกราชอาณาจักร เพื่อศึกษาต่อที่ประเทศเยอรมณี ซึ่ง 'เดียร์ - วริศรา' เป็นจำเลยที่ 11 คดีอาญามาตรา 112 และอื่นๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับการชุมนุม ม็อบ 26 ตุลา ปี 2563 กรณีอ่านแถลงการณ์ภาษาเยอรมันในการชุมนุมหน้าสถานทูตเยอรมันและอยู่ระหว่างการประกันตัวออกมาต่อสู้คดี 

วริศรา กล่าวว่า หลังจากได้รับทุนไปศึกษาต่อปริญญาโทที่ประเทศเยอรมัน เเละในช่วงเดือนเมษายน - ตุลาคม ซึ่งต้องเดินทางทดสอบความพร้อม หากผ่านจะได้เรียนถึงปี 2567 จึงได้ยื่นคำร้องต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ ขอเดินทางออกนอกราชอาณาจักร ดำเนินการมาแล้ว 2 ครั้งและศาลยกคำร้องทุกครั้ง โดยให้เหตุผลว่า เกรงว่าจะหลบหนี ซึ่งเป็นหนึ่งเงื่อนไขหลักในการประกันตัว 

ส่วนครั้งที่ 3 นี้ศาลต้องการให้นำหลักฐานยืนยันจากประเทศเยอรมันว่าตน ได้รับทุนไปศึกษาต่อจริง มายืนยันต่อศาลก่อนจะพิจารณาว่าจะอนุญาตให้เดินทางออกนอกราชอาณาจักรหรือไม่หลังจากนี้ ซึ่งยังไม่แน่ชัดว่าศาลจะมีคำสั่งเมื่อไหร่หรือวันไหน และหากไม่อนุญาตก็จะยื่นขออีกเป็นครั้งที่ 4 ต่อไป ซึ่งคดี #ม็อบ26ตุลา จะพิจารณากลางปีหน้าและอยู่ในช่วงที่จะมีการปิดเทอม สามารถเดินทางกลับมาขึ้นศาลในประเทศไทยได้อยู่แล้ว

วริศรา ย้ำว่า เรียนภาษาเยอรมันตั้งแต่อายุ 15 ปีและใฝ่ฝันจะศึกษาต่อที่ประเทศเยอรมันตั้งแต่นั้น และได้เข้าเรียนคณะอักษรศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กระทั่งได้รับทุนการศึกษาดังกล่าว ซึ่งนอกจากสนใจเรื่องภาษาเยอรมันแล้ว ยังเห็นว่าช่วงที่มีสถานการณ์ทางการเมืองหรือการชุมนุมในปนะเทศไทย NGOs หรือนักพัฒนาเอกชน ในประเทศไม่ค่อยมีพลังในการต่อสู้กับอำนาจรัฐเท่าไร ขณะที่ NGO เยอรมนีมีความเข้มแข็งและหลักสูตรหรือโปรแกรมที่ได้รับทุนการศึกษาก็เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ที่ตัวเองสนใจและให้ความสำคัญด้วย 

สำหรับการเคลื่อนไหวทางการเมืองและการโดนคดีความรวมถึงกระทบโอกาสที่จะได้ศึกษาต่อต่างประเทศนั้น ทางครอบครัวไม่ได้ว่าอะไร แต่สนับสนุนและให้กำลังใจคลอดมารวมถึงเพื่อนๆด้วย พร้อมกันนี้ ขอบคุณมวลชนหรือแกนนำราษฎรคนอื่นๆ ที่ยังยืนหยัดต่อสู้อย่างไม่หยุดหย่อน เพื่อประชาธิปไตยและความเป็นธรรมในสังคม และยืนยันว่า ตนยังจะต่อสู้ต่อไป 

"เป็นกำลังใจให้ทุกคน ที่ยังเป็นนักสู้ และเราก็จะสู้ไปด้วยกัน"