แม้สตาร์ทอัพจะเป็นเทรนด์ในประเทศไทยมานานหลายปี แต่สตาร์ทอัพที่พัฒนาเทคโนโลยีด้านการศึกษา หรือ Edtech Startup นั้นกลับยังคงต้องเผชิญหน้ากับอุปสรรคในการเติบโต เนื่องจากขาดการสนับสนุนทั้งจากภาครัฐ และนักลงทุน

กระทิง-เรืองโรจน์ พูนผล ผู้ก่อตั้งกองทุน 500 ตุ๊กตุ๊ก และดิสรัปท์ เทคโนโลยี เวนเจอร์ กองทุนเพื่อสตาร์ทอัพไทย ให้ข้อมูลว่า ตลาดการลงทุนใน EdTech เป็นเทรนด์ที่มีแนวโน้มที่จะเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยทั่วโลกมีการลงทุนจาก Venture Capital (ธุรกิจเงินร่วมลงทุน) ทั่วโลกนั้นสูงกว่า 9.52 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 2.98 แสนล้านบาท ใน EdTech สตาร์ทอัพกว่า 813 ธุรกิจ สตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีเพื่อการศึกษาจึงเป็นทั้งโอกาสของสังคมและนักลงทุน

อย่างไรก็ตาม สตาร์ทอัพด้านการศึกษามีแนวโน้มจะเติบโตโดยขาดทุนหนักช่วงแรก ก่อนจะทำกำไรอย่างมากในระยะต่อมา จึงต้องได้รับการสนับสนุนจากนักลงทุนที่เข้าใจ โครงการสตอร์มเบรกเกอร์เวนเจอร์ (Storm Breaker Venture) ซึ่งช่วยบ่มเพาะ และเร่งเครื่องสตาร์ทอัพด้านการศึกษาแห่งแรกในอาเซียนเลยเกิดขึ้น เพื่อผลักดันสตาร์ทอัพ EdTech ในระยะตั้งไข่ หวังยกระดับการศึกษาไทย ให้คนไทยทั่วประเทศเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพ และสร้างประสบการณ์เรียนรู้แบบใหม่ให้กับคนไทยกว่า 1 ล้านคนภายในปี 2563

สตาร์ทอัพทั้ง 4 ทีมที่เข้าร่วมโครงการได้รับเงินลงทุนขั้นต้นตั้งแต่ 500,000-1,500,000 บาทต่อทีม พร้อมได้รับการเชื่อมต่อกับเครือข่ายนักลงทุนด้ในระดับภูมิภาค รวมถึงได้รับคำแนะนำอย่างใกล้ชิดกับทีมนักลงทุน และที่ปรึกษาทั้งไทยและต่างประเทศ เพื่อค้นหาโมเดลธุรกิจที่เหมาะสมสำหรับไอเดียของสตาร์ทอัพแต่ละทีม

“เราใส่เงินลงทุนเข้าไป แล้วเราช่วยเขาทำการตลาด สอนและแนะนำเขา พาเขาไปอยู่ในคอมมูนิตี ช่วยค้นหาโมเดลธุรกิจ และเชื่อมต่อเขากับกลุ่มนักลงทุนและกลุ่มบริษัทใหญ่ที่อาจจะเป็นลูกค้าหรือเป็นพาร์ทเนอร์กับเขาได้”

• กระทิง-เรืองโรจน์ พูนผล ผู้ก่อตั้งกองทุน 500 ตุ๊กตุ๊ก และดิสรัปท์ เทคโนโลยี เวนเจอร์ กองทุนเพื่อสตาร์ทอัพไทย

ในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา สตาร์ทอัพเทคโนโลยีด้านการศึกษาทั้ง 4 ทีมภายได้เปลี่ยนประสบการณ์การเรียนรู้ของผู้เรียนไทยแล้วกว่า 150,000 คน โดยกลุ่มสตาร์ทอัพชุดแรกทั้ง 4 ทีมของโครงการ ได้แก่

วอนเดอร์ (Vonder) แชทบอทด้านการศึกษา ที่ปรับระดับให้เหมาะสมกับความรู้ของผู้เรียน เพื่อเป็นทางเลือกใหม่ของการเรียนที่เข้าใจง่าย สนุกน่าเรียน และใครๆ ก็สามารถเข้าถึงได้ฟรีด้วยโทรศัพท์มือถือ

ปัจจุบันเปิดสอนวิชา ภาษาอังกฤษ ประวัติศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ โดยมีโมเดลธุรกิจเป็นการนำความรู้ และทรัพยากรที่มีของแชทบอทวอนเดอร์เพื่อการศึกษา ไปพัฒนาเป็นแชทบอทวอนเดอร์เพื่อองค์กร ทำงานร่วมกับฝ่ายทรัพยากรบุคคลของบริษัทต่างๆ เพื่อพัฒนาพนักงาน

• ปลุกความรู้กับ 'วอนเดอร์' แชทบอทการศึกษา ยิ่งแชท ยิ่งเรียนเก่ง

• วอนเดอร์ แชทบอทด้านการศึกษา

ว็อกซี (Voxy) แพลตฟอร์มเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ ทั้งการอ่าน การเขียน การพูด และการฟัง ผสมผสานการเรียนรู้ออนไลน์เข้ากับคลาสสอนสดจากครูเจ้าของภาษา โดยใช้เทคโนโลยี AI ในการปรับการเรียนการสอนให้เหมาะกับระดับของผู้เรียน และออกแบบหลักสูตรเฉพาะทาง เพื่อใช้ในการทำงานจริง เช่น ภาษาอังกฤษสำหรับธุรกิจน้ำมัน ภาษาอังกฤษสำหรับงานธนาคาร หรือภาษาอังกฤษสำหรับงานบริการลูกค้า เป็นต้น

• ว็อกซี แพลตฟอร์มเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ ที่ใช้ AI ปรับการสอนให้เหมาะกับความต้องการของผู้เรียน

โอเพนดูเรียน (OpenDurian) หรือ เปิด-ดู-เรียน แพลตฟอร์มเรียนออนไลน์และคลังข้อสอบสำหรับนักเรียน นักศึกษา และคนวัยทำงาน โดยมีแนวข้อสอบฟรี ตั้งแต่ข้อสอบเข้า ไปจนถึงข้อสอบโทอิค (TOEIC) เพื่อกระจายโอกาสทางการศึกษา พร้อมมีคอร์สเรียนออนไลน์ ซึ่งระยะเวลาที่ผ่านมา 5 ปี โอเพนดูเรียนทำรายได้แล้วกว่า 49.5 ล้านบาท โดยไม่ผ่านการระดมทุน

ด้วยจุดแข็งของการเป็นแพลตฟอร์มการเรียนออนไลน์ที่มีทีมถ่ายทำระดับมืออาชีพ ทำให้การเรียนไม่ถูกจำกัดอยู่บนกระดานอีกต่อไป และปัจจุบันกำลังมีการพัฒนาคอร์สด้านการเขียนโปรแกรม และทักษะดิจิทัลที่จำเป็นในอนาคต

• โอเพนดูเรียน แพลตฟอร์มเรียนออนไลน์และคลังข้อสอบ

อินสครู (InsKru) คือคอมมูนิตี้ของครูที่เชื่อว่า การศึกษาเปลี่ยนแปลงได้ และอยากสร้างห้องเรียนที่มีความสุขทั่วประเทศ โดยเล็งเห็นปัญหาของครูหลายคนที่ต้องการสร้างความเปลี่ยนแปลง แต่ยังขาดเครื่องมือ และวิธีการสอน จึงมุ่งเผยแพร่แนวคิด แรงบันดาลใจ เทคนิคการสอน สื่อการสอน มุมมองใหม่ๆ วิธีแก้ไขปัญหาในห้องเรียน เพื่อสร้างห้องเรียนที่เกิดการมีส่วนร่วม และบรรยากาศที่เหมาะแก่การเรียนรู้

อินสครูเชื่อมต่อกับครูทั่วประเทศแล้วเกือบ 40,000 คน โดยสร้างทั้งชุมชนออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ เฟซบุ๊ก และชุมชนออฟไลน์ ด้วยการทำเวิร์กช็อปแลกเปลี่ยนแนวทางการสอนร่วมกับครูในพื้นที่ต่างๆ

• อินสครู คอมมูนิตี้ออนไลน์ และออฟไลน์ ของครูที่ต้องการสร้างความเปลี่ยนแปลงในระบบการศึกษา

จันทนารักษ์ ถือแก้ว กรรมการผู้จัดการโครงการ StormBreaker Venture กล่าวในวันงาน StormBreaker Venture Demo Day 2019 Batch 1 งานประกาศความสำเร็จของโครงการ StormBreaker Venture รุ่นแรก เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ ว่าสตาร์ทอัพ EdTech 4 ทีมสุดท้ายนี้ เป็น 4 ทีมนำร่องของการนำเทคโนโลยีเข้ามาเปลี่ยนแปลงระบบการศึกษาไทย โดยมุ่งเน้นการแก้ไขปัญหา 4 ด้านคือ การเรียนรู้และพัฒนาทักษะด้านเทคโนโลยีและการเขียนโค้ดซึ่งเป็นทักษะแห่งอนาคต (STEM and Coding for all) การพัฒนาศักยภาพบุคลากรในยุคดิจิทัล (Teacher for Future) การเรียนรู้ภาษาอังกฤษ (English for All) และการพัฒนาศักยภาพบุคลากรในยุคดิจิทัล (Reskilling Professionals) เพื่อรับมือกับการปฏิวัติทางอุตสาหกรรมดิจิทัลที่จะเกิดขึ้น

“StormBreaker Venture จะเป็นจุดเริ่มต้น และจุดเปลี่ยนที่สำคัญของระบบการศึกษาไทย โดยมีเทคโยโลยี และมันสมองของเหล่า EdTech Startup ไทย พาประเทศไทยก้าวกระโดดสู่การศึกษายุคดิจิทัลที่มีศักยภาพ” จันทนารักษ์ กล่าว