ไม่พบผลการค้นหา
‘สุทิน’ ฉะรัฐบาลประยุทธ์ ออกเงื่อนไขโหด หลอกชุมชนสร้างโรงไฟฟ้าขนาดเล็กมาก หวังรวบงานให้ทุนใหญ่ทำ ซัดโง่แล้วยังอมสเปโต

วันที่ 15 ก.พ. 2566 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรสมัยสามัญประจำปีครั้งที่สองเป็นพิเศษ พิจารณาญัตติอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา152 ที่มี สุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาฯ คนที่ 1 ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม โดย สุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) อภิปรายถึงโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก ของรัฐบาลว่า ตนชื่นชมและเชียร์โครงการนี้ แต่ไปๆ มาๆ กลับล้มเหลว แฝงด้วยวัตถุประสงค์ร้าย โครงการโรงไฟฟ้าขนาดเล็กมากหรือ VSPP ต่ำกว่า 10 เมกะวัตต์ นำร่อง 150 เมกะวัตต์ ทำในชุมชนให้ชุมชนเป็นเจ้าของ แบ่งเป็นกังหันลม โซล่าเซลล์ โรงไฟฟ้าขยะและชีวมวล แต่ 8 ปีที่เสนอมา ไม่เกิดแม้แต่โรงเดียว เพราะโรงงานไฟฟ้าแทนที่จะเกิด ติด 14 ขั้นตอน เห็นว่าไม่อยากให้เกิดขึ้นจริง

สุทิน กล่าวว่า มีการสกัดเอกชน มีด่านเก็บค่าผ่านทาง เงื่อนไขที่ตั้งไว้ไม่ให้เกิดโดยให้นายทุนถือหุ้นถึง 90% แต่ให้ชุมชนถือหุ้นแค่ 10% หลอกให้ชาวบ้านฝันค้าง และต้องมีเงินประกันสัญญา 500 ล้านบาท ถามว่าชุมชนที่ไหนจะมีเงินมากขนาดนั้น แถมยังมีปัญหาฮั้วประมูลจาก 43 โรงที่ผ่านการมูล มี 20 โรง ที่ฮั้วประมูลเพราะเป็นเจ้าของเดียวกัน เรื่องฟ้องร้องอยู่ที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ไม่ได้เซ็นสัญญาสักราย หากเป็นของชุมชนจริงคงไม่มีการฟ้องร้องกัน แต่นี่เจตนาร้ายไปหลอกชุมชน แบบนี้ก็เปลี่ยนชื่อไป อย่าไปบอกว่าเป็นของชุมชนหรือฐานราก

สุทิน กล่าวต่อว่า ทำไมเงื่อนไขให้ชุมชนเป็นเจ้าของแค่ 10% โอกาสฟื้นฟูชุมชนก็ไม่มี ทำไมไม่ให้ชุมชนถือหุ้น 51% หรือมากกว่านั้น ท่านจะตอบว่าชุมชนไม่มีเงินไปลงทุน หากท่านตอบแบบนี้ ตนจะตอบเลยว่าระบบลงทุนมีเยอะ และมีระบบเทิร์นคีย์โดยชุมชนให้ที่และสิทธิเห็นชอบทุนส่วนกลาง เอกชนพร้อมลงทุนให้หมด 7 ปีรอคืนทุน ปีที่ 8 ชาวบ้านได้โรงไฟฟ้าไป แม้จะมีปัญหาเรื่องมลพิษแต่ปัจจุบันมีเทคโนโลยีที่จะแก้ปัญหา โดยเฉพาะเรื่องชีวมวลเป็นเทคโนโลยีที่สร้างมลพิษน้อย

"หากผมเป็นรัฐบาล จะแก้เงื่อนไขให้เป็นของชุมชน ส่วนทุนใหญ่ไปเอาโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่และขนาดกลาง อย่าไปแย่งชุมชน ออกเงื่อนไขยากเพราะหวังให้โรงงานขนาดเล็กทำไม่ไหว และรวบให้ทุนใหญ่ทำหรือไม่ สุดท้ายท่านก็กลับมาเป็นบิดาแห่งความเหลื่อมล้ำอีกรอบ ดูไปเหมือนฉลาดที่คิดเรื่องนี้ สุดท้ายเหมือนฉลาดแกมโกง โง่แล้วยังไม่พอ อมสเปโตด้วย" สุทิน กล่าว 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง