วันที่ 14 ก.ค. เศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย กล่าวภายหลังที่ประชุมรัฐสภา มีมติ ไม่เห็นชอบ นพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรี รอบแรก และคาดว่ารอบสองจะมีการเปลี่ยนชื่อนายกฯ หรือไม่ว่า ส่วนตัวขอถามฝ่ายกฎหมาย แต่เมื่อเห็นผลการโหวตก็มีความไม่สบายใจ นึกว่าจะผ่านไปได้ด้วยดี ส่วนตัวเข้าใจว่าวันนี้จะมีการประชุมร่วมกันระหว่างพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทย
เมื่อถามว่าเป็นไปได้หรือไม่ หากจะมีการนำเสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯ จากเพื่อไทยขึ้นมาประกบ เศรษฐา กล่าวว่า เรื่องนี้ยังไม่ได้คุยกับใครเลยจริง ๆ เพราะเพิ่งเดินทางมาจากต่างประเทศ ถึงเมืองไทยเมื่อตอนตี 3 ขอไปอ่านข่าวก่อน
สำหรับข้อเสนอเรื่องการปิดสวิตซ์ ส.ว.ของ ปิยะบุตร แสงกนกกุล แกนนำคณะก้าวหน้า เศรษฐา มองว่าเรื่องการปิดสวิตซ์ ส.ว.มีการคุยมานานและหลายหนมาก ตนมองว่าเรื่องนี้มันก็สุดทางแล้ว และเกิดขึ้น ณ ช่วงเวลานี้ หากเกิดขึ้นในช่วงเวลานี้คงเป็นเรื่องที่ยากลำบากมาก จริงๆ แล้วคำว่าปิดสวิตซ์ ฟังแล้วไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ตนว่ามันก็ยังลำบากอยู่ดีเพราะมีการโหวตครั้งที่หนึ่งไปแล้ว และตนมองว่า ก็ต้องฟังความเห็นของพรรคร่วม 8 พรรค ว่ามีความคิดเห็นอย่างไรบ้าง ซึ่งตนก็มีความกังวลในกรณีนี้เช่นกัน
เมื่อถามว่ากังวลหรือไม่ หากรอบสองจะมีการเสนอรายชื่อ พล.อ.ประวิตร พรรคพลังประชารัฐ เป็นแคนดิเดตนายกฯ เศรษฐา ตอบว่า ยังไม่รู้ ว่าจะมีการเสนอชื่อตรงนี้หรือไม่ หากดูตามคณิตศาสตร์การเมืองเป็นเรื่องยาก หากจะเสนอชื่อ พล.อ.ประวิตร เพราะพรรคพลังประชารัฐ มีจำนวนแค่ 40 กว่าเสียง ย้ำว่าลำบากมาก และยากที่จะเป็นไปได้
เศรษฐา ยังกล่าวอีกว่า คะแนนรอบแรกที่โหวตพิธา เป็นนายกฯ ยังต่ำไปหน่อย ตนขอปรึกษาผู้บริหารพรรคว่าคิดเห็นอย่างไร วันนี้จะชัดเจนขึ้นหลังจากประชุมพรรคร่วมในวันนี้ ส่วนจะมีการดันชื่อ พิธา เป็นนายกฯ ต่อหรือไม่ นายเศรษฐา ตอบว่าเรื่องนี้ต้องคุยกัน ย้ำว่ายังคงสนับสนุน พิธา เป็นนายกฯ และขอบคุณทุกเสียงของ สมาชิก รัฐสภา 324 เสียง ที่โหวตให้ พิธา เป็นนายกฯ
ส่วนมีแนวโน้มที่จะไปคุยกับ ส.ส.ขั้วรัฐบาลเดิมหรือไม่นั้น เศรษฐา บอกว่า ให้เป็นยุทธศาสตร์ร่วมของ 8 พรรค ซึ่งตนไม่ได้อยู่ในวงเจรจา
เศรษฐา ยังทิ้งท้ายอีกว่า “เหนื่อย หลังกลับจากต่างประเทศมา ยังไม่มีนายกฯ“