ไม่พบผลการค้นหา
ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว หารือร่วมกับ ผู้ว่าฯ บันเตียเมียนเจย เห็นชอบร่วมกันที่จะบริหารจัดการพื้นที่ชายแดนให้เป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อย จะไม่มีการปลุกระดมมวลชน พร้อมทั้งควบคุมมวลชนของประเทศตนให้อยู่ห่างจากพื้นที่อ้างสิทธิ์ของประเทศตรงข้าม ไม่น้อยกว่า 500 เมตร

นายปริญญา โพธิสัตย์ ผวจ.สระแก้ว พร้อม หน.ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ได้เดินทางเข้าร่วม ในการประชุมบริหารจัดการสถานการณ์ให้มีความสงบเรียบร้อยในพื้นชายแดนกับฝ่ายกัมพูชา โดยมี นายอุม เรียไตร ผวจ.บันเตียเมียนเจย พร้อม พล.ต.เป็จ วรรณา รอง จก.ชด.บก.ทสส./หน.สน.ปกท. ให้การต้อนรับและเข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุม สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจุดผ่านแดนถาวรปอยเปต (ตรงข้าม จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ) โดยการประชุมดังกล่าว สืบเนื่องมาจากการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) สมัยพิเศษ ครั้งที่ 1/68 เมื่อ 10 ก.ย 68ระหว่าง ไทย - กัมพูชา ณ จ.เกาะกง โดยที่ประชุมเห็นชอบให้ ผวจ.สระแก้ว และ ผวจ.บันเตียเมียนเจย ประสานงานกันเพื่อบริหารจัดการสถานการณ์ให้มีความสงบเรียบร้อย ซึ่งการประชุมดังกล่าว ฝ่ายไทยได้ยื่นข้อเสนอ โดยมีรายละเอียดดังนี้

ทั้งสองฝ่าย เห็นชอบร่วมกันที่จะบริหารจัดการพื้นที่ชายแดนให้เป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อยโดยกำหนดให้มวลชนของทั้งสองประเทศ ถอยห่างออกจากพื้นที่อ้างสิทธิ์ของประเทศตรงข้ามไม่น้อยกว่า 500 เมตร

ทั้งสองฝ่าย จะไม่มีการปลุกระดมมวลชน พร้อมทั้งควบคุมมวลชนของประเทศตนให้อยู่ห่างจากพื้นที่อ้างสิทธิ์ของประเทศตรงข้าม ไม่น้อยกว่า 500 เมตร

ทั้งสองฝ่าย เห็นชอบร่วมกัน ไม่ให้มีการเปลี่ยนแปลงลักษณะภูมิประเทศในพื้นที่อ้างสิทธิ์ของทั้งสองประเทศในทุกกรณี ในกรณีที่มีการดำเนินการไปแล้ว ให้ปรับคืนสู่สภาพเดิมภายใน 1 วันหลังการประชุม

ทั้งสองฝ่าย เห็นชอบร่วมกัน ที่จะไม่มีการเพิ่มกำลังทหารและอาวุธหนักในพื้นที่ชายแดนทั้งสองจังหวัด

จังหวัดสระแก้ว ขอสงวนสิทธิ์ในการออกเอกสารสิทธิในที่ดินทำกินของคนไทย ในเขตอธิปไตยของประเทศไทย ซึ่งอยู่นอกเขตพื้นที่อ้างสิทธิ์ของทั้งสองประเทศ

ประชาชนของทั้งสองประเทศ สามารถเข้าทำประโยชน์ในที่ดินในเขตอธิปไตยของตนนอกพื้นที่อ้างสิทธิ์ได้ โดยห้ามประชาชน ทหาร หรือเจ้าหน้าที่รัฐเข้าทำการขัดขวางการทำประโยชน์ดังกล่าว ทั้งนี้ หากเกิดความไม่สงบเรียบร้อยในพื้นที่ของประเทศใด ให้เป็นหน้าที่ของประเทศนั้นต้องดำเนินการแก้ไขให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยโดยเร็ว

หากไทยและกัมพูชาไม่สามารถหาข้อตกลงได้ภายใต้กลไกการหารือของคณะกรรมการชายแดนทั่วไป(General Border Committee : GBC) สมัยพิเศษ ครั้งต่อไป จังหวัดสระแก้วจะมีหนังสือแจ้ง จังหวัดบันเตียเมียนเจยให้ราษฎรที่อยู่นอกเส้นอ้างสิทธิที่รุกล้ำเข้ามาในอธิปไตยไทยให้ย้ายออกจากพื้นที่พร้อมทรัพย์สินและสังหาริมทรัพย์บ้านหนองจานและบ้านหนองหญ้าแก้ว อำเภอโคกสูง ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่จังหวัดสระแก้วมีหนังสือแจ้ง หากไม่ออกจากพื้นที่ดังกล่าว จังหวัดสระแก้วจะดำเนินการตามชั้นตอนกฎหมายของราชอาณาจักรไทยต่อไป ตามที่ได้แจ้งให้ทราบแล้ว ทั้งสองฝ่าย เห็นชอบร่วมกันที่จะจัดตั้งคณะกรรมการแก้ไขปัญหาระดับพื้นที่ร่วมกันระหว่างสองประเทศ เพื่อมีเป้าหมายในการแก้ไขปัญหาทุกประเด็นด้วยสันติวิธี และหลีกเลี่ยงการปะทะ

ในส่วนฝ่ายกัมพูชา ได้ยื่นข้อเสนอฝ่ายไทย โดยมีรายละเอียดดังนี้

ให้ทั้งสองฝ่ายปฏิบัติตามผลการประชุม ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย, ผลการประชุม RBC และผลการประชุม GBC ทั้งสองฝ่าย ปฏิบัติตามข้อตกลง MOU- 43 และ TOR 2003 หลีกเลี่ยงการปฏิบัติที่มีผลกระทบต่อประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่โดยทั้งสองฝ่ายรอปฏิบัติตามผลการประชุม jbc ทั้ง 2 จังหวัดดำเนินการตามผลการประชุม GBC

อนึ่ง ข้อเสนอของฝ่ายไทยทั้ง 8 ข้อ นั้น ฝ่ายกัมพูชายังไม่สามารถให้ความเห็นชอบได้ในขณะนี้ โดย ฝ่ายกัมพูชาจะนำข้อเสนอของฝ่ายไทยให้หน่วยเหนือของตนพิจารณา และจะแจ้งให้จังหวัดสระแก้วรับทราบต่อไป ทั้งนี้ฝ่ายไทยนั้น ถ้าหากว่าทางจังหวัดบันเตียเมียนเจยไม่รับข้อเสนอข้อมดข้อหนึ่ง จังหวัดสระแก้วยังคงสงวนและจะดำเนินการต่อไปในเขตอธิปไตยและราชอาณาจักรไทย