ไม่พบผลการค้นหา
อดีตพนักงานธนาคารชื่อดัง พร้อมด้วยประธานเครือข่ายสหภาพแรงงานธนาคารและสถาบันการเงิน เข้ายื่นหนังสือต่อตัวแทนจากธนาคารแห่งประเทศไทยให้ตรวจสอบ หลังโพสต์เฟซแฉธนาคารบังคับขายประกันเพิ่มยอดให้หัวหน้างาน

เวลา 10.00 น. องอาจ เซนช่วยญาติ ประธานเครือข่ายสหภาพแรงงานธนาคารและสถาบันการเงิน พร้อมด้วย ชลาลัย ปฏิญาณวิภาส อดีตพนักงานธนาคารชื่อดังที่เคยเป็นกระแส โพสต์เฟซบุ๊กระบายความในใจ เรื่องของการทำงานในธนาคารดังกล่าว ว่าถูกกดดันให้ขายประกันตามยอดที่หัวหน้างานตั้งเป้าไว้ เมื่อช่วงกลางเดือน พ.ย. ที่ผ่านมา เพื่อยื่นหนังสือถึงผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ให้มีการตรวจสอบและแก้ไขปัญหา

องอาจ เซนช่วยญาติ ประธานเครือข่ายสหภาพแรงงานธนาคารและสถาบันการเงิน กล่าวว่า จากกรณีที่ชลาลัย ได้มีการโพสต์เรื่องราวการทำงานในธนาคารในโลกโซเชี่ยล ทำให้ตนเองรู้สึกว่าต้องเรียกร้องความถูกต้องให้กับพนักงานธนาคาร ซึ่งเครือข่ายบีฟันเคยไปยื่นหนังสือถึงกรณีดังกล่าวมาแล้วครั้งหนึ่งที่ศูนย์ดำรงธรรมสมาคมธนาคารไทย และกรมสวัสดิการคุ้มครองแรงงาน 3 ประเด็นหลักคือ 1.ให้พนักงานธนาคารในห้างสรรพสินค้าได้หยุดตามประเพณีในวันปีใหม่ และวันสงกรานต์ 2.เรื่องการขายผลิตภัณฑ์ประกัน ว่าควรมีรายละเอียดปลีกย่อย เพราะเหล่านี้มีผลกระทบต่อบุคลากร 3.การรักษาบัญชีและการคิดค่าธรรมเนียม ซึ่งเรื่องนี้ได้มีการแก้ไขแล้วจริง แต่เรื่องที่ 1 และ 2 ยังไม่มีการแก้ไข

อีกทั้ง ชลาลัย ออกมาเปิดเผยการทำงานภายในธนาคาร ทำให้ทางบีฟันตัดสินใจยื่นหนังสือถึงแบงค์ชาติซึ่งเป็นองค์กรที่ควบคุมธนาคารพาณิชย์ทั่วประเทศ โดยได้ทำหนังสือเข้าพบเพื่อปรึกษาหารือและแก้ไขปัญหาทั้ง 2 เรื่องให้เป็นรูปธรรม ไม่ใช่เพียงแต่ว่าแบงค์ชาติได้ออกมาชี้แจงเรื่องการตรวจสอบ และบทลงโทษทางธนาคารที่ชลาลัยเคยทำงาน ซึ่งที่จริงแล้วแบงค์ชาติควรที่จะต้องตรวจสอบว่าปัญหาที่แท้จริงเกิดจากอะไร และควรแก้ไขปัญหาอย่างไรให้ถูกจุด เพราะจริงๆแล้วทุกธนาคารเป็นบริษัทมหาชน รายได้ทั้งหมดของธนาคารจะต้องถูกนำไปปันผลให้กับผู้ถือหุ้นที่จะได้รับผลประโยชน์

แต่พนักงานชั้นผู้น้อยจะถูกบังคับให้ทำตามเป้าหมาย KPI เพื่อให้ได้รับค่าคอมมิสชั่นมา แต่หากยอดไม่ถึงเป้าก็จะต้องถูกตำหนิ ถูกหักค่าคอมมิสชั่น และถูกประเมินผลในคะแนนที่ต่ำ ทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับผู้จัดการสาขาซึ่งตอนนี้ตนเองมีหลักฐานพบว่ายังมีอีกหลายธนาคารที่พนักงานถูกบีบบังคับให้มีการขายประกัน ซึ่งสิ่งเหล่านี้มีผลกระทบต่อผู้บริโภค และหากวันนี้มีการยื่นหนังสือ แต่ไม่มีความคืบหน้าใดหลังจากนี้จะมีกระบวนการกดดัน เพื่อขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาดังกล่าวต่อไป และสร้างความเป็นธรรมให้กับพนักงานธนาคารทุกคน

ด้าน ชลาลัย ปฏิญาณวิภาส อดีตพนักงานธนาคารชื่อดังที่เคยเป็นกระแส กล่าวว่าหลังจากพ้นสภาพการเป็นพนักงาน ไม่ได้รับความกดดันมาก แต่เพื่อนร่วมงานที่ยังทำงานอยู่ จะถูกกดดันมากขึ้น และจะมีการสั่งงาน คุยงานผ่านทางโทรศัพท์ เพื่อไม่ให้เกิดหลักฐานอะไรเพิ่ม อีกทั้งมีการสุ่มตรวจตามสาขาถึงกรณีการถูกบังคับขาย แต่จะมีการบังคับให้พนักงานตอบว่าไม่มีการบังคับขาย ตนเองจึงอยากเข้ายื่นหนังสือเพื่อสร้างสวัสดิภาพของพนักงาน และการทำงานอาจจะดีขึ้น หากลดความกดดันในการบังคับขาย รวมไปถึงลูกค้าจะรู้สึกสบายใจที่ไม่ถูกบีบบังคับให้ซื้อประกัน

ด้านธนาคารแห่งประเทศไทยได้ส่งตัวแทนมารับมอบเอกสารจากประธานเครือข่ายสหภาพแรงงานธนาคารและสถาบันการเงิน เพื่อนำไปให้กับผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ให้มีการตรวจสอบและแก้ไขปัญหาที่พนักงานธนาคาร ได้พิจารณาต่อไป