ศาลจังหวัดพัทยาได้อ่านคำพิพากษาศาลฎีกาในคดีที่พนักงานอัยการ ยื่นฟ้องนายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง อดีตแกนนำ นปช. กับพวก บุกล้มการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนกับประเทศคู่เจรจา ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ เมื่อปี 2552 ซึ่งจัดขึ้นที่โรงแรมรอยัล คลิฟ บีช รีสอร์ท เมืองพัทยา ในสมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ โดยพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ให้จำคุกนายอริสมันต์กับพวกรวม 12 คน ยกเว้น นายสมยศ พรหมมา เป็นเวลา 4 ปี โดยไม่รอลงอาญา พร้อมกับออกหมายจับจำเลยทั้งหมดที่ได้รับการลงโทษแต่ไม่ได้มาฟังคำพิพากษาในวันนี้ ( 11 ก.ย.2562)

จำเลยในคดีนี้ประกอบด้วย นายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง , นายนิสิต สินธุไพร นายพายัพ ปั้นเกตุ, นายวรชัย เหมะ นายวันชนะ เกิดดี , นายพิเชฐ สุขจินดาทอง นายศักดิ์ดา นพสิทธิ์ , พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรรัตน์ นายนพพร นามเชียงใต้ นายสำเริง ประจำเรือ นายสมยศ พรหมมา นพ.วัลลภ ยังตรง และ นายสิงห์ทอง บัวชุม โดย พ.ต.ท.ไวพจน์ นั้นมีสถานะ ส.ส.กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในปัจจุบัน

วรชัย - ไวพจน์ - สำเริง รอหมายเรียกนัดฟังคำพิพากษา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลจังหวัดพัทยาได้อ่านคำพิพากษาในวันนี้ (11 ก.ย.) มีจำเลยเดินทางมาฟังคำพิพากษาเพียงคนเดียวคือ นายศักดา นพสิทธิ์ ขณะที่จำเลยคนอื่นไม่ได้เดินทางมารับฟังคำพิพากษา โดยนายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง นพ.วัลลภได้แจ้งต่อศาลขอให้เลื่อนอ่านคำพิพากษาแต่ศาลไม่อนุญาตและได้อ่านคำพิพากษาทันที พร้อมทั้งออกหมายจับจำเลยที่ไม่มาฟังคำพิพากษาในวันเดียวกันนี้

ส่วนจำเลยอีก3 คน คือนายวรชัย พ.ต.ท.ไวพจน์ และนายสำเริง ยังไม่ได้รับหมายเรียกให้มารับฟังคำพิพากษา โดยศาลจะออกหมายเรียกให้มาฟังคำพิพากษาในวันที่ 31 ต.ค.นี้ แต่โดยคำพิพากษาในวันนี้ศาลได้ตัดสินจำคุกจำเลย 12 คนและยกฟ้องจำเลยเพียง 1 คน

ก่อนหน้านี้ ศาลอุทธรณ์ได้พิพากษาคดีนี้โดยยืนตามศาลชั้นต้น ตัดสินจำคุกนายอริสมันต์ กับพวก เป็นเวลา 4 ปี โดยไม่รอลงอาญา และเมื่อวันที่ 5 มี.ค.2558 ศาลจังหวัดพัทยาซึ่งเป็นศาลชั้นต้นก็มีคำพิพากษาให้จำคุก 4 ปีโดยไม่รอลงอาญาเช่นกัน

โดยคดีดังกล่าวอัยการจังหวัดพัทยาเป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง กับพวกในข้อหาร่วมกันขัดขืนคำสั่งเจ้าพนักงานที่ไม่ให้มีการชุมนุมเกินกว่า 10 คนขึ้นไป และผิดพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) จราจร พ.ศ.2522

ทั้งนี้ คดีดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเดือน เม.ย. ปี 2552 นายอริสมันต์ เป็นแกนนำผู้ชุมนุมที่เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี โดยนำผู้ชุมนุมทั้งจากจังหวัดใกล้เคียงและที่สมทบจากกรุงเทพฯ เพื่อปิดล้อมการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนกับคู่เจรจา โดยเมื่อวันที่ 10 เม.ย. ได้เข้าปิดล้อมหน้าโรงแรมรอยัล คลิฟ บีช รีสอร์ท พัทยา เพื่อเข้ายื่นหนังสือกับตัวแทนอาเซียน โดยวันต่อมาได้กลับมาชุมนุมหน้าโรงแรมอีกครั้ง เพื่อกดดันรัฐบาลให้รับผิดชอบกับเหตุการณ์ปะทะกับกลุ่มคนสวมเสื้อสีน้ำเงิน ในช่วงเช้า จนกระทั่งรัฐบาลขณะนั้นในฐานะเจ้าภาพจัดการประชุม ขอเลื่อนการประชุมออกไปโดยไม่มีกำหนด แล้วพาผู้นำประเทศต่างๆ เดินทางออกจากสถานที่ประชุม และขึ้นเครื่องบินกลับโดยทันที