ไม่พบผลการค้นหา
นายกรัฐมนตรี ย้ำแรงงานเป็นฟันเฟืองสำคัญขับเคลื่อนประเทศ ร่วมสร้างวัฒนธรรมแห่งการป้องกัน ทำประเทศสงบสุข -มีเสถียรภาพ

วันที่ 30 มิ.ย. ที่ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวปาฐกถาเปิดงานความปลอดภัยและอาชีวอนามัยแห่งชาติ ครั้งที่ 34 (Thailand Safe@Work 2022) ว่า วันนี้เป็นอีกวันที่เราร่วมกันทำให้เกิดความปลอดภัยในการทำงานในการประกอบกิจการหลายๆ อย่าง ซึ่งเชื่อว่าทุกความสำเร็จเกิดขึ้นได้ด้วยความร่วมมือร่วมใจและความเข้าใจของบุคลากรทุกระดับบทุกส่วนงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งรัฐบาล เอกชนและภาคธุรกิจ เราต้องการความสำเร็จบนความปลอดภัยไร้ความเสี่ยง เพื่อสวัสดิภาพการทำงานของทุกคน ซึ่งแม้ข้อมูลสถิติอุบัติเหตุในการทำงานมีแนวโน้มลดลงตามลำดับ แต่ยังไม่พอใจอยากให้ลดอุบัติเกตุเป็นศูนย์ไม่มีเลย เพราะขณะนี้ถือว่ายังอยู่ในระดับสูงโดยเฉพาะกลุ่ทที่ทำงานกับเครื่องจักร 

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ตนเน้นไปยังกระทรวงแรงงานในเรื่องการพัฒนาฝีมือแรงงาน และทำงานร่วมกับเครื่องจักร เครื่องมือและหุ่นยนตร์ วันนี้ต้องเตรียมการให้พร้อมวันหน้าเปลี่ยนไปหมด ทั้งสังคมสูงวัย การขาดแคลนแรงงานและอื่นๆ ตนและทุกคนเป็นห่วงลูกจ้างและผู้ใช้แรงงานทุกคน จึงขอทุกคนมีสติไม่ประมาท ย้ำว่ารัฐบาลมีโรดแม็พด้านแรงงานพร้อมการเร่งรัดคลี่คลายหลายเรื่อง เช่น ปัญหาการค้ามนุษย์ การหลบหนีเข้าเมือง และการทำเอ็มโอยูกับประเทศเพื่อนบ้าน รวมทั้งส่งเสริมบทบาทแรงงาน เราต้องบูรณาการทำงานร่วมกับต่างประเทศด้วย โดยมอบให้กระทรวงแรงงานเดินหน้าเรื่องเหล่านี้ จึงฝากผู้ประกอบให้ใช้แรงงานถูกต้องตามกฎหมาย จะได้ไม่เกิดปัญหา ซึ่งรัฐบาลไม่มุ่งหวังจะทำร้ายใครเลย

นายกฯ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้แรงงานทุกคนทั้งในอดีต วันนี้ และวันหน้าคือฟันเฟืองสำคัญในภาคการผลิตนอกจากมุ่งยกระดับฝีมือแรงงานแล้ว ต้องมุ่งเน้นความปลอดภัยทุกเรื่อง โดยประเทศไทยต้องสร้างวัฒนธรรมแห่งการป้องกันในทุกเรื่อง เพื่อทำให้ประเทศสงบสุข มีเสถียรภาพ และความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ซึ่งความสูญเสียไม่มีใครปราถนา เพราะจะเสียขวัญเสียกำลังใจ นำมาสู้ปัญหาทุกอย่างเกี่ยวเนื่อง

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า รัฐบาลสนับสนุนวัฒนธรรมแห่งการป้องกัน 3 ประการ ได้แก่ การมีสติรู้ตัว มีวินัยถูกต้อง และความเอื้ออาทรใส่ใจ โดยต้องสร้างค่านิยมเรื่องเหล่านี้ขึ้นมา และรวมทั้งค่านิยมเรื่องความรักชาติ รักคนอื่น รักธรรมชาติและอะไรต่างๆ เหล่านี้ล้วนเป็นค่านิยมที่เราสร้างกันมาอย่างยาวนานเป็นน้อยๆปี และต้องสร้างต่อไปในการมีเอกลักษณ์มายาวนานเป็นเอกลักษณ์ของประเทศไทยที่แตกต่างจากหลายประเทศ

อย่างไรก็ตามการทำอะไรมีความเสี่ยงอยู่เฉยๆ ไม่มีความเสี่ยง เราต้องช่วยกันทั้งตัวเองและคนอื่น พร้อมมีแผนรองรับความเสี่ยงต่างๆ ที่สำคัญที่สุดขอให้ทุกคนรู้บทบาทหน้าที่ในทุกตำแหน่ง

ทั้งนี้ตนต้องการให้แรงงานทุกคนมีความสุข มีความปลอดภัยในการทำงาน เพราะแรงงานทุกคนถือเป็นทรัพยากรและบุคคลที่มีคุณค่าที่สุดในประเทศ เพราะเป็นกำลังสำคัญในการพัฒประเทศ เพื่อเป็นองค์ประกอบทำให้ประเทศมั่นคง มั่งคั่งและยั่งยืน นั่นคือความมั่นคงปลอดภัยและความผาสุขของทั้งนายจ้างและลูกจ้าง