ไม่พบผลการค้นหา
รุ่งโรจน์ รังสิโยภาส เล่าเส้นทางดีลวัคซีนระหว่าง ออกซฟอร์ด รัฐบาลไทย แอสตราเซเนกา และ สยามไบโอไซเอนซ์

วันที่ 25 ม.ค. รายการ เจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand โดย ดนัย เอกมหาสวัสดิ์ และ อมรรัตน์ มหิทธิรุกข์ เปิดเผยคลิปวิดีโอ งาน Intania Dinner Talk 2020 เดินหน้าฝ่าวิกฤต พลิกเศรษฐกิจไทย ซึ่งจัดโดย สมาคมนิสิตเก่าวิศวกรรมศาสตร์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. 2563 ที่ผ่านมา 

ช่วงหนึ่งของงานนี้ 'รุ่งโรจน์ รังสิโยภาส' กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือเอสซีจี ได้เปิดเผยรายละเอียดและที่มาของการเซ็นสัญญาซื้อวัคซีนโควิด-19 ระหว่างรัฐบาลไทยเเละแอสตราเซเนกา

รุ่งโรจน์ เล่าว่า ในช่วงเดือน มี.ค.-เม.ย. เอสซีจี ได้เข้าไปช่วยบุคลากรทางการเเพทย์ โดยพัฒนาห้องคัดกรองและตรวจผู้เสี่ยงติดโควิด-19 ก่อนจะคิดได้ว่า ทางออกจากวิกฤตมีทางเดียวคือ 'วัคซีน'

ที่ผ่านมา 'เอสซีจี' เองได้ทำเรื่องวิจัยพัฒนาร่วมกับ 'ออกซฟอร์ด' มาร่วม 10 ปีแล้ว และขณะนั้นทราบว่าออกซฟอร์ดกำลังพัฒนาวัคซีนอยู่ จึงกลายเป็นที่มาของการติดต่อเริ่มพูดคุยกัน

รุ่งโรจน์ เล่าว่า รู้จักผู้ใหญ่ในรัฐบาลหลายท่าน จึงได้นำเรื่องวัคซีนไปบอกเล่าและพูดคุยแลกเปลี่ยน ซึ่งทางรัฐบาลก็ยินดีเเละอยากเห็นเอกชนเข้ามามีบทบาทตรงนี้ 

หลังจากนั้นรุ่งโรจน์จึงได้เข้าไปพูดคุยกับ 'ออกซฟอร์ด' ในบทบาทของซีเอสอาร์

"เราคนไทยเเละมองว่าคนไทยลำบากไม่ใช่เเค่เรื่องสุขภาพเเต่เป็นเรื่องของเศรษฐกิจด้วย เราคิดว่าถ้ามีไรที่ช่วยเหลือได้ เราก็อยากจะช่วย" 

'ออกซฟอร์ด' เเนะนำให้เขาไปพูดคุยกับบริษัทแอสตราเซเนกา ผู้ถือใบอนุญาตผลิตวัคซีน

ภายหลังจากพูดคุย เอสซีจีเองรู้จักกับสยามไบโอไซเอนซ์ ที่ก่อตั้งโดยในหลวง ร.9 อยู่เเล้ว และปรากฏว่า สยามไบโอไซเอนท์ เพิ่งสั่งซื้อเครื่องจักรเข้ามาใหม่ ที่เป็นรุ่นเดียวกับสายการผลิตของแอสตราเซเนกา ทำให้มีความพร้อมที่จะผลิต

"เป็นความโชคดี ของประเทศไทย" รุ่งโรจน์ บอก

เมื่อเอสซีจีได้พูดคุยกับ 'สยามไบโอไซเอนท์' อีกฝ่ายบอกว่ามีความเป็นไปได้ในการผลิตเเละจะยอมเสียโอกาสทางธุรกิจเพื่อมาทำวัคซีน 

ด้านภาครัฐเองก็ให้การสนับสนุนเเละได้ข้อสรุปว่า 'แอสตราเซเนกา' อยากให้เมืองไทยเป็นฐานการผลิตของอาเซียน ซึ่ง 'สยามไบโอไซเอนท์' มีกำลังการผลิตประมาณ 200 ด้านโดสต่อปี หรือ 100 ล้านคน 

เมื่อตกลงกันได้จึงนำไปสู่การเซ็นสัญญาระหว่าง อนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กับ แอสตราเซเนกา